งานวิจัยใหม่ของเอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) สำรวจพบว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้บริหารการตลาดทั่วโลกเกือบ 70% ให้พนักงานทำงานอย่างหนัก ซึ่งสอดคล้องกับสถิติภาวะหมดไฟในคนทำงานทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมากเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวก็เผยกลยุทธ์ที่เป็นความหวังในการปรับตัวอย่างผู้ชนะไปด้วยเช่นกัน
งานวิจัยชิ้นนี้จัดทำโดย Accenture Interactive ภายใต้หัวข้อ “The Great Marketing Declutter” หรือปรากฏการณ์การลดทอนความยุ่งเหยิงทางการตลาดครั้งใหญ่ ระบุว่ามีนักการตลาดกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 17% จากผู้บริหารการตลาดกว่า 1,000 คนที่ทำการสำรวจ เปิดเผยว่าในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา องค์กรของตนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีท่ามกลางสภาวะที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และความซับซ้อนของปัจจัยต่าง ๆ รายงานฉบับนี้ ให้นิยามของคนกลุ่มนี้ว่า “ผู้พิชิต” (Thrivers) เพราะพนักงานส่วนใหญ่ (86%) ในองค์กรเหล่านี้ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมุมมองใหม่ในการให้บริการลูกค้าที่มีแรงจูงใจซึ่งสามารถเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว
“ผู้พิชิต” จัดการกับความยุ่งเหยิงทางการตลาดเพื่อบริหารปัจจัยซับซ้อนต่าง ๆ โดย 59% เห็นว่าธุรกิจการตลาดของพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าปีก่อน เพราะมีแรงกดดันให้ต้องทบทวนมุมมองการตลาดใหม่ทั้งหมด “ผู้พิชิต” ได้ทุ่มเทให้ความสำคัญกับแรงจูงใจของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยต้องหาให้เจอว่าจะให้บริการลูกค้าได้อย่างไรในแนวทางที่ฉลาดขึ้นและดียิ่งขึ้น พวกเขาใส่ใจกับสิ่งที่สำคัญเท่านั้น และละทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป ส่วนระบบที่ยังต้องมีอยู่ก็ถูกจัดการใหม่ ส่งผลให้พวกเขาค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่ทำ ซึ่งสำคัญมากในการตอบโจทย์ธุรกิจและลูกค้า รวมไปถึงการรักษาและดึงดูดพนักงานใหม่ไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย
รายงานฉบับนี้ ได้แบ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่เหลือออกเป็นสองกลุ่ม ตามลักษณะความสัมพันธ์กับลูกค้า ได้แก่ “ผู้ฝ่าฟัน” (Strivers) ที่คิดเป็นสองในสาม (66%) ของกลุ่มผู้บริหารที่ถูกสำรวจ มีอิสระประมาณหนึ่งในการสนองตอบความต้องการของลูกค้า แต่ยังรับรู้การเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้จำกัดอยู่ อีกกลุ่มคือ “ผู้อยู่รอด” (Survivors) มี 17% ซึ่งเป็นกลุ่มที่หมดไฟแล้ว และไม่ติดตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า คิดไปว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
“นักการตลาดที่ใช้สถานการณ์การระบาดของโรคเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์งานและวิธีการทำงานในรูปแบบใหม่ รวมถึงกำหนดบทบาทของงานการตลาดโดยรวมที่มีต่อธุรกิจให้สอดคล้องไปกับสถานการณ์ จะทำให้เป็นผู้พิชิตความสำเร็จ และขับเคลื่อนให้การเติบโตของธุรกิจดำเนินต่อไปได้” นางสาวมนต์ชยา กุลวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส เอคเซนเชอร์ อินเตอร์แอคทีฟ กล่าวและเสริมว่า “ปัจจุบันการทำให้แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมและมีบทบาทสำคัญกับชีวิตของผู้บริโภค เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งคุณจะทำไม่ได้เลยถ้ายังคงยึดตำราแบบเดิม ๆ”
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า “ผู้พิชิต” ได้ปรับทิศทางธุรกิจการตลาดให้สอดคล้องกับหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การปรับให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ (ของบริษัท) การช่วยลูกค้า และปรับปรุงวิธีการทำงานด้านการตลาดขององค์กร
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นอีกว่า “ผู้พิชิต” มีบทบาทนำ ทั้งในด้านความคิดและวิธีปฏิบัติ ซึ่งสามารถสรุปออกมาเป็น 5 แนวทาง
รายงานฉบับนี้ ยังได้ยกตัวอย่างวิธีที่องค์กรชั้นนำบางแห่ง เช่น Blue Buffalo, Diageo, Direct Line Group และ NRMA Insurance สามารถตัดความยุ่งเหยิงในโมเดลการตลาดและประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ที่มา marketeer