• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

เอคเซนเชอร์ชี้ “ผู้นำ” ยุคใหม่ ต้องกล้าปรับตัว และนำการเปลี่ยนแปลง


24 มิถุนายน 2564

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่แค่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังสร้างความท้าทายให้กับ “ผู้นำ” องค์กรอย่างมาก เพราะจะต้องขบคิดหาวิธีเพื่อพาองค์กรผ่านวิกฤตและอยู่รอดอย่างยั่งยืนต่อไปได้ คำถามคือ แล้วท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ผู้นำแบบไหนที่คนทั่วโลก “อยากได้” เพื่อที่จะสามารถรับมือกับความท้าทายในโลกใหม่ และ Post Covid ที่ไม่เหมือนเดิม

 

มาฟังคำตอบเรื่องนี้กันชัดๆ จาก “เอคเซนเชอร์” ที่ได้นำเสนอรายงาน Technology Vision 2021 ในหัวข้อ Leaders Wanted: Masters of Change at a Moment of Truth ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นจากผู้บริหารธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำกว่า 6,200 ราย ใน 31 ประเทศ 14 อุตสาหกรรม พร้อมเทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่เหล่าผู้นำองค์กรต้องรับมือต่อไป

ผู้นำยุคโควิด ต้องกล้าปรับตัว และนำการเปลี่ยนแปลง

ผลการสำรวจชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ผู้นำที่คนทั่วโลกต้องการในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ผู้นำที่มีความเก่งเท่านั้น แต่ต้องเป็น “ผู้นำในการเปลี่ยนแปลง” กล้า “ปรับตัว” นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานมากขึ้นเพื่อทรานฟอร์มองค์กรสู่ความเป็นดิจิทัล เพราะผลการศึกษาพบว่า องค์กรที่มีพื้นฐานด้านดิจิทัลแข็งแรงไม่เพียงช่วยให้ปรับตัวได้เร็ว แต่ผู้นำยังสามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้องค์กรได้มากกว่าขึ้น โดยเร็วกว่าองค์กรที่ตามอยู่ถึง 5 เท่าในปัจจุบัน

“การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นเหมือนกดปุ่มฟาสต์ฟอร์เวิร์ดไปสู่อนาคต หลายองค์กรปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในแบบใหม่เพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอด และพัฒนาไปในแบบที่ไม่คิดว่าจะทำได้มาก่อน ในขณะที่มีอีกหลายองค์กรต้องประสบกับความจริงที่เจ็บปวด มีทั้งความไม่พร้อมและขาดพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อการปรับองค์กรให้ได้อย่างรวดเร็ว”

คุณนิธินันท์ สมบูรณ์วิทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว และขยายความให้ฟังว่า ผู้นำไม่ได้มองการปรับตัวเพียงเพื่อให้องค์กรอยู่รอดในสภาวะนี้เท่านั้น แต่ยังมองไปถึงสถานการณ์หลังจากนี้ด้วย โดยเชื่อว่าองค์กรที่สามารถพัฒนาสิ่งใหม่ๆ หรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาดได้หลังจากโควิด-19 จะเป็นผู้กำหนดอนาคต

คุณนิธินันท์ สมบูรณ์วิทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย

โดย 92% ของผู้บริหารไทยระบุว่า องค์กรกำลังสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยความเร่งด่วนเพื่อนำมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และ 91% ของผู้บริหารต่างประเทศเห็นตรงกันว่า การจะเจาะตลาดแห่งอนาคตนั้น องค์กรจะต้องเป็นผู้กำหนดวิถีด้วยตนเอง ซึ่งการที่องค์กรจะกำหนดทิศทางแห่งอนาคตนั้น จะต้องยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ประกอบไปด้วย

1.ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เพราะหมดยุคแห่งการเป็นผู้ที่ตามได้เร็วแล้ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอด ผู้นำของวันข้างหน้าคือ ผู้ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำในการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ

2.ผู้นำจะไม่รอให้เกิดภาวะ New Normal แต่จะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา พัฒนาตามสภาวะความเป็นจริงใหม่โดยใช้แนวคิดและรูปแบบที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

3.ผู้นำย่อมเป็นผู้ที่รับผิดชอบมากขึ้นในฐานะพลเมืองโลก โดยการออกแบบและนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมสร้างสิ่งดี ๆ นอกเหนือจากประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับองค์กร เพื่อร่วมสร้างโลกที่ยั่งยืนและคำนึงถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เพราะโลกเปลี่ยน องค์กรต้องปรับมุมมองใหม่

นอกจากคุณลักษณะของผู้นำที่ต้องกล้าปรับตัวและนำการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นแล้ว ผลสำรวจยังพบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

  • 67% ของผู้บริหารไทย และ 63% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่าองค์กรของตนเองได้เร่งกระบวนการปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลในช่วงเวลาที่ผ่านมา
  • 95% ของผู้บริหารไทย และ 99% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เป็นบททดสอบขององค์กรในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตในด้านต่างๆ ทั้งสถาปัตยกรรม โครงสร้างทางเทคโนโลยี, กลยุทธ์องค์กร พนักงาน และกระบวนการทำงานขององค์กร
  • 83% ของผู้บริหารไทย และ 92% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่าองค์กรของตนเองต้องมีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างเร่งด่วน แล้วสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นต้องเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้จริง และเห็นผลจริงเป็นรูปธรรม
  • 82% ของผู้บริหารไทย และ 91% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่าการกำหนดความต้องการของตลาดในอนาคต เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องคิดค้นและกำหนดขึ้นมาว่าควรจะออกมาในรูปแบบใด

ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงการทรานฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล ผลสำรวจพบว่า การมาของโควิด-19 ทำให้องค์กรต่างๆ มีการปรับตัวสู่ดิจิทัลรวดเร็วขึ้น โดยสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ทำธุรกิจได้ภายใน 1-2 ปี จากเดิมที่เคยต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี เนื่องจากต้องรับมือกับสถานการณ์วิกฤต โดยองค์กรที่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่แข็งแรงจะสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าและเกิดการสะดุดของธุรกิจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับองค์กรที่ยังไม่ปรับตัวสู่ดิจิทัล

“ตอนนี้ต้องยอมรับว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รูปแบบการทำงาน รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคจะไม่ใช่ภาพเดิมอีกต่อไปแล้ว องค์กรจึงต้องเริ่มมีมุมมองใหม่ๆ” คุณนิธินันท์ บอกถึงอุปสรรคสำคัญของการปรับตัวสู่ดิจิทัล แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พบว่า องค์กรไทยต่างๆ ไม่เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่มีความตื่นตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในทุกส่วนงาน จากเดิมที่จะเห็นในส่วนงานขายเป็นหลัก

สำหรับองค์กรที่ยังไม่สามารถปรับตัวสู่ดิจิทัลหรืออยู่ระหว่างการปรับตัวนั้น คุณนิธินันท์ แนะว่า องค์กรไม่จำเป็นต้องปรับสู่ดิจิทัลทั้งหมด แต่ควรเริ่มจากการ “กำหนดเป้าหมาย” และ “วัตถุประสงค์” ในการนำดิจิทัลมาใช้ในองค์กรให้ชัด รวมถึงสามารถวัดผลได้ ก็จะทำให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น

ส่อง 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรต้องรับมือในอีก 3 ปี

ไม่เพียงแต่โควิด-19 จะเข้ามาสร้างความท้าทายให้กับผู้นำองค์กร ในรายงาน Accenture Technology Vision 2021 ยังได้เผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นที่องค์กรจะต้องเร่งปรับตัวและรับมือช่วง 3-5 ปีจากนี้ด้วย ได้แก่

 

1.Stack strategically – การกำหนดโครงสร้างทางเทคโนโลยีอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต

การแข่งขันของอุตสาหกรรมยุคใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว เป็นยุคที่ธุรกิจไม่ได้แข่งขันกันแค่การช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด แต่เป็นการแข่งขันกันที่สถาปัตยกรรมหรือโครงสร้างทางไอทีขององค์กร ทำให้องค์กรไม่ได้มองเพียงการวางแผนกยุทธ์ทางธุรกิจ แต่ต้องวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจและเทคโนโลยีไปพร้อมกัน

โดยผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้บริหารในไทย และ 77% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่าโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ขณะที่ 85% ของผู้บริหารในไทย และ 89% ของผู้บริหารทั่วโลก มองว่า ขีดความสามารถขององค์กรในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้เพิ่มขึ้น มีปัจจัยสำคัญมาจากสถาปัตยกรรมทางเทคโนโลยีขององค์กร

2.Mirrored World – การสร้างโลกดิจิทัลคู่ขนานอันชาญฉลาด

เป็นเทรนด์ในการสร้างโลกจำลองที่มีข้อมูลมากมายเสมือนโลกจริง โดยใช้ข้อมูลและระบบอัจฉริยะเพื่อสร้างโลกจริงบนดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาโมเดลต่างๆ และนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสใหม่ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้กับตลาด

โดยผลสำรวจพบว่า 77% ของผู้บริหารในไทย และ 65% ของผู้บริหารทั่วโลก มีแนวโน้มลงทุนในโลกเสมือนจริง และ AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า และ 90% ของผู้บริหารในไทย และ 87% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่า โลกดิจิทัลคู่ขนานอันชาญฉลาด และ AI มีความสำคัญใน Ecosystem ของการทำธุรกิจ

3.I, Technologist – ทุกคนสามารถจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี ด้วยการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม

เพราะตอนนี้พนักงานทุกคนจากทุกฝ่ายสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แก้ไขจุดที่เป็นปัญหา และช่วยให้ธุรกิจก้าวทันต่อความต้องการใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

โดย 88% ของผู้บริหารในไทย และ 86% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่า การเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม มีความสำคัญต่อการจุดประกายนวัตกรรมให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร ขณะที่ 87% ของผู้บริหารในไทย และ 90% ของผู้บริหารทั่วโลก มองด้วยว่า นอกจากการสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีในการทำงานแล้ว องค์กรยังต้องให้ความสำคัญในความปลอดภัยของข้อมูล และการกำกับดูแลการเข้าถึงข้อมูลเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในองค์กรมากขึ้น

4.Anywhere Everywhere – ทำงานจากที่ไหนก็ได้

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บุคลากรขององค์กรสามารถระบุสภาวะแวดล้อมในการทำงานได้เอง ทำให้ผู้บริหารและองค์กรต้องปรับมุมมองในการทำงานให้เข้ากับรูปแบบการทำงานแบบใหม่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เวลาเข้าออกงาน และสถานที่ในการทำงาน

โดย 57% ของผู้บริหารในไทย และ 47% ของผู้บริหารทั่วโลก พบว่า องค์กรต่างๆ ได้ทำการลงทุนในเครื่องมือต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานจากทางไกลในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ 80% ของผู้บริหารในไทย และ 81% ของผู้บริหารทั่วโลก เชื่อว่า องค์กรชั้นนำจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน โดยเริ่มให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดสภาวะแวดล้อมการทำงานได้ด้วยตนเอง

5.From Me to Me – รอดได้ด้วยการเชื่อมโยงของข้อมูล

ในช่วงที่ทุกคนต้องหันมาใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การมีระบบที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่าย จะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดแนวทางใหม่ๆ ในการทำธุรกิจมากขึ้น โดย 93% ของผู้บริหารในไทย และ 90% ของผู้บริหารทั่วโลก มองว่า องค์กรต้องปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลอย่างเร่งด่วน โดยต้องมีคลาวด์ เทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน

ที่มา Brandbuffet

 

ข่าวยอดนิยม

ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12...

09 ตุลาคม 2558
12243

แนวโน้ม Tech Trends 2022 ในมุมมองผู้เชี่ยวชาญ (ต่างประเทศ) จะเกิดอะไรข...

29 ธันวาคม 2564
11840

เทรนด์ Metaverse? ญี่ปุ่นเปิดตัวหน้าจอแนวใหม่ “สามารถเลียเพื่อชิมรสได้...

28 ธันวาคม 2564
10363

ผลวิจัยเผย ใกล้ชิดธรรมชาติ แก้เหงาได้ ลดความเสี่ยงเสียชีวิต 45%...

26 ธันวาคม 2564
9750

แชร์ข่าวสาร

ลาก่อนรถน้ำมัน! คาด ‘รถอีวี’ จะครองโลกในปี 2033 เร็วกว่าที่เ... เปิดแนวคิดบริษัทที่มี Work Life Balance ดีติดอันดับโลก: ชาวฟ...

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

แนวโน้ม Tech Trends 2022 ในมุมมองผู้เชี่ยวชาญ (ต่างประเทศ) จะเกิดอะไรข...

29 ธันวาคม 2564
11840

เทรนด์ Metaverse? ญี่ปุ่นเปิดตัวหน้าจอแนวใหม่ “สามารถเลียเพื่อชิมรสได้...

28 ธันวาคม 2564
10363

ผลวิจัยเผย ใกล้ชิดธรรมชาติ แก้เหงาได้ ลดความเสี่ยงเสียชีวิต 45%...

26 ธันวาคม 2564
9750

สหรัฐอเมริกา ผู้ก่อขยะพลาสติกในทะเลรายใหญ่สุดของโลก...

09 ธันวาคม 2564
2938

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th