ผลสำรวจเผย 74% ของคนทำงานออฟฟิศ สนับสนุนการทำงานแบบ 4 วันต่อสัปดาห์ แต่มีเพียง 8% เท่านั้น ที่ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อยู่แล้ว นอกจากนี้คนทำงานในยุคนี้ยังต้องการ Work Life Balance ที่ดี มากกว่าเงินเดือน และความมั่นคง

ภาพจาก Shutterstock

ที่ผ่านมาการทำงานแบบ 4 วัน และหยุด 3 วันต่อสัปดาห์ ได้รับการพูดถึงอยู่เสมอ ว่าจะช่วยให้พนักงานมีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าการทำงานแบบ 5 วัน และหยุด 2 วันแบบเดิม โดยหลายบริษัททั่วโลกเคยทดลองให้พนักงานทำงานในรูปแบบใหม่นี้ และพบว่า

• • ลดความวิตกกังวลในการทำงาน และเพิ่มเวลาพักผ่อนของพนักงาน
  • ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ถึง 40%
  • ลดระดับความเครียด เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน และเพิ่มความสามารถในการทำงานเป็นทีม

อย่างไรก็ตามยังไม่ค่อยมีบริษัทใดทำการศึกษาความคิดเห็นของพนักงานทั่วไปมากเท่าไหร่นัก ว่าพวกเขาต้องการที่จะทำงานในรูปแบบใดมากกว่ากัน

JLL บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ และอาคารสำนักงานระดับโลก ได้เปิดเผยผลสำรวจจากพนักงานมากกว่า 2,000 คน ใน 10 ประเทศทั่วโลก พบว่า พนักงานกว่า 74% สนับสนุนแนวคิดการทำงานแบบ 4 วัน และหยุด 3 วันต่อสัปดาห์ แต่มีเพียง 8% เท่านั้นที่ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อยู่แล้ว และอีกกว่า 18% มองว่าคงตัวเองคงไม่ได้ทำงานแบบ 4 วันต่อสัปดาห์แน่นอน

อย่างไรก็ตาม Cynthia Kantor ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารของ JLL เล่าว่า แนวโน้มการให้ความยืดหยุ่นในการทำงานแก่พนักงาน มีสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่ง ทั้งการทำงานที่บ้าน และการไม่กำหนดเวลาเริ่ม และเลิกงาน ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะเปลี่ยนวิธีวัดผลการทำงาน โดยการวัดที่ผลลัพธ์การทำงานแทน

วันศุกร์ คนเข้าออฟฟิศน้อยกว่าวันอื่นมานานแล้ว

แม้ว่าแนวคิดการทำงานแบบ 4 วัน และหยุด 3 วันต่อสัปดาห์ จะยังไม่แพร่หลายจากบริษัทต่างๆ มากนัก แต่ Kantor เล่าว่า จากผลสำรวจของ JLL พบว่า บางบริษัทก็ยอมรับแนวคิดการทำงาน 4 วัน และหยุด 3 วันมานานแล้ว สังเกตได้จากข้อมูลที่พบว่าในวันศุกร์ สำนักงานมักมีพนักงานเข้ามาน้อยกว่าวันอื่นๆ

นอกจากผลสำรวจเรื่องการทำงานแบบ 4 วัน หยุด 3 วันต่อสัปดาห์แล้ว JLL ยังเปิดเผยด้วยว่า คนทำงานในยุคนี้ต้องการความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว (Work Life Balance) ที่ดี มากกว่าเงินเดือนที่มาก หรือความมั่นคงด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าคนในยุคนี้ให้ความสำคัญกับชีวิต และสุขภาพที่ดี เทียบเท่ากับการทำงาน

ที่มา – cnbc, JLL