• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

รู้จักเทคโนโลยี “สวนแนวตั้ง” ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ปิด แก้ปัญหาเผาป่าทำเกษตร


15 พฤศจิกายน 2563

VIDEO: We Use An Exceptional Amount of Land To Grow Food For Sows. Vertical  Farms Could Change That If We Used Them To Grow Cow Feed — iGrow

(Photo : Grōv Technologies)

ทุกวันนี้ฟาร์มปศุสัตว์โดยเฉพาะฟาร์มโคเนื้อ-โคนม กลายเป็นผู้ร้ายต่อสิ่งแวดล้อม เพราะวัวต้องการอาหาร นำไปสู่การถางป่า-เผาป่าเพื่อปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ต้นตอปัญหาโลกร้อน ทำให้ Grov สตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ดัดแปลงเทคโนโลยี “สวนแนวตั้ง” มาใช้ในระดับอุตสาหกรรม ปลูกข้าวบาร์เลย์-ข้าวสาลีเลี้ยงวัว ลดการใช้พื้นที่ทำเกษตรกรรม

เทคโนโลยี “สวนแนวตั้ง” หรือสวนที่ปลูกในที่ร่มไม่ใช่เรื่องใหม่ มีสตาร์ทอัพและบริษัทจำนวนมากคิดค้นสูตรเพื่อปลูกพืชแนวตั้ง แต่ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ “ผักสลัด” สำหรับมนุษย์บริโภค แต่สตาร์ทอัพ Grov Technologies ไม่คิดเช่นนั้น พวกเขานำเทคโนโลยีสวนแนวตั้งมาใช้สำหรับปลูกข้าวบาร์เลย์และข้าวสาลีไว้เลี้ยงวัว

ในพื้นที่ฟาร์มวัวแห่งหนึ่งของรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา มีตึกลักษณะคล้ายเต็นท์ยักษ์แห่งหนึ่งที่ด้านในบรรจุหอสูง 10 แท่ง สูงแท่งละ 25 ฟุต (ประมาณ 7.5 เมตร) เพื่อปลูกธัญพืชไว้เลี้ยงวัวที่เดินอยู่ด้านนอก บริษัท Grov รายงานว่า หอแต่ละแท่งใช้พื้นที่ 850 ตารางฟุตเท่านั้น (ประมาณ 79 ตารางเมตร) แต่สามารถปลูกข้าวบาร์เลย์ได้เทียบเท่ากับที่ปลูกบนพื้นราบเนื้อที่ 35-50 เอเคอร์ (ประมาณ 88-126 ไร่) แถมยังใช้น้ำเพียง 5% ของที่เคยใช้เมื่อปลูกพืชตามวิธีปกติ

หอสำหรับปลูกพืชในร่ม (Photo : Grov Technologies)

กระบวนการทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์จะเทเมล็ดพันธุ์ 4 ปอนด์ลงในแต่ละถาด และส่งถาดนั้นเข้าสู่ระบบ เซ็นเซอร์จะคอยมอนิเตอร์สภาวะของพืชในถาดและให้แสงกับน้ำที่เพียงพอ จนกระทั่งเติบโตถึงจุดที่เหมาะสมก็จะเก็บเกี่ยวอัตโนมัติเช่นกัน ทำให้ฟาร์มไม่จำเป็นต้องหาคนงานเพิ่มเติมมาดูแลระบบ บริษัทระบุว่า โดยเฉลี่ยระบบนี้จะใช้เวลา 6 วันครึ่งในการปลูกพืชแต่ละรอบ

นอกจากนี้ Grov ยังพยายามลดต้นทุนให้มากที่สุดที่ทำได้ เช่น แสงไฟฟ้าสำหรับปลูกพืชจะไม่ส่งความร้อนออกมาด้วยเพื่อเลี่ยงปัญหาค่าไฟพุ่งทะยานจากการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ และบริษัทยังทำระบบให้สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้ด้วย

 

ประหยัดพื้นที่ ลดการถาง-เผาป่าปลูกพืช

“สตีฟ ลินด์สลีย์” ประธานบริษัท Grov Technologies กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้ที่ดินของสหรัฐฯ ราว 41% ของประเทศใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ และดีมานด์เพื่อใช้ที่ดินไปในทิศทางนั้นยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกโดยเฉพาะสำหรับพืชเลี้ยงสัตว์กำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ

(Photo : Twitter@GrovTech)

ดังนั้น ในบางพื้นที่ของประเทศ จะมีการถางป่าหรือเผาป่าเพื่อนำมาใช้ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ประเภทโคหรือไก่ “เทคโนโลยีนี้เห็นได้ชัดว่าจะมีประโยชน์ยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม เราคิดว่ามันจะมีความหมายอย่างลึกซึ้งในการพัฒนา เมื่อคุณคิดถึงการทำลายป่าเพื่อเหตุนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลก” ลินด์สลีย์กล่าว

  • เปิดจดหมายเจ้าสัว CP ตอบนายกฯ โมเดล “3 ประโยชน์ 4 ประสาน” ต้องยกระดับเกษตรกรไทย

เมื่อใช้ที่ดินน้อยลง น่าจะช่วยบรรเทาปัญหาจากการทำปศุสัตว์และเกษตรกรรมในขณะนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีน เป็นกลุ่มทุนที่เข้าซื้อที่ดินเกษตรกรรมทั่วโลกเพื่อปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ส่งกลับประเทศตัวเอง รวมถึงที่สหรัฐฯ ด้วย
ดังนั้น “จีน” จะเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญที่บริษัทนี้บุกเข้าตลาด เพื่อแนะนำระบบการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์โดยตรงเข้าสู่ฟาร์ม ไม่ต้องเสียทั้งที่ดินและเชื้อเพลิงเพื่อขนส่งข้ามโลก

 

โต้กลับกลุ่มอาหาร Plant-based

จากการทดลองเบื้องต้นในการเลี้ยงวัวหลักร้อยตัวเมื่อปี 2019 ฟาร์มที่ทดลองใช้พบว่าพืชจากการปลูกในร่มกลับมีโภชนาการดีกว่าที่ปลูกบนพื้นที่ปกติ ทำให้วัวกินอาหารน้อยลง และลดค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก โดยที่วัวยังให้ปริมาณนมเท่าเดิม

Grov ประเมินว่าฟาร์มที่ลงทุนเทคโนโลยีนี้จะเข้าสู่จุดคุ้มทุนภายใน 3 ปี และยังลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่เริ่มถี่มากขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง คลื่นความร้อน น้ำท่วม พายุ ฯลฯ ซึ่งมีผลต่อการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้มองว่าเทคโนโลยีนี้จะมาแทนที่ฟาร์มปกติได้ทั้งหมด แต่มองว่าจะเป็นสัดส่วนอาหารที่เข้าไปผสมกับอาหารสัตว์จากแหล่งปกติ ยกตัวอย่างเช่นฟาร์มในรัฐยูทาห์ที่กล่าวข้างต้น พืชจากสวนแนวตั้งคิดเป็นสัดส่วน 15% ของอาหารทั้งหมดเพื่อเลี้ยงวัวจำนวน 2,000 ตัว ถึงแม้จะผสมเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนัก แต่ก็มีศักยภาพพอที่จะช่วยโลกจากการถางป่า สาเหตุของโลกร้อน

ลินด์สลีย์ยังมองประโยชน์ในเชิงการค้าด้วย เพราะทุกวันนี้มีกระแสการทานอาหาร Plant-based หรือเนื้อทำจากพืชซึ่งผลิตขึ้นในห้องแล็บ โดยผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทานอาหารประเภทนี้ ส่วนหนึ่งเพราะตระหนักถึงการทำลายสิ่งแวดล้อมในแวดวงปศุสัตว์ ดังนั้น การเปลี่ยนวิธีปลูกพืชจะเป็นการโต้กลับของกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์เพื่อนำผู้บริโภคกลับคืนมา

ที่มา Positioning

ข่าวยอดนิยม

ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12...

09 ตุลาคม 2558
11039

การวัดผลกระทบจากสินค้า Product Environmental Footprint (PEF)...

02 กุมภาพันธ์ 2558
4261

มุมมองต่อบรรจุภัณฑ์ของผู้บริโภคกลุ่ม Millennials ในยุโรป...

18 มีนาคม 2558
4179

10 ทักษะจำเป็นที่ต้องมีในปี 2025...

23 พฤศจิกายน 2563
4154

แชร์ข่าวสาร

ผู้เชี่ยวชาญเผย 5 ทักษะสำคัญในโลกอนาคต ไม่ใช่แค่ความ “เก่ง” ... สิงคโปร์เตรียมดึงคนเก่งสายไอทีเข้าประเทศ คัดคุณสมบัติเทพระดั...

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

ที่ 1 ในอาเซียน! โรคระบาดสร้างโอกาสให้เวียดนาม เศรษฐกิจขยายตัวดีที่สุด...

22 กุมภาพันธ์ 2564
149

“คลังสินค้าอัจฉริยะ” หัวใจดิจิทัลซัพพลายเชนในอาเซียน...

21 กุมภาพันธ์ 2564
219

ประชุมออนไลน์อย่างไรให้ได้เนื้องาน ไม่ล่องลอยหายไปกับสายลม...

18 กุมภาพันธ์ 2564
85

เจาะลึก Clubhouse สตาร์ทอัพยูนิคอร์นน้องใหม่ที่จะมา disrupt ยักษ์ใหญ่ใ...

17 กุมภาพันธ์ 2564
262

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th