• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

เศรษฐกิจโลก ปี 58 มีแนวโน้มขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 3.1 ส่วนปีหน้าคาดว่าจะโตร้อยละ 3.6 ด้านเศรษฐกิจไทยปี 58 ขยายตัวได้จากแรงขับเคลื่อนของภาครัฐและการท่องเที่ยว ปรับตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว คาดโตร้อยละ 2.5-3.2


โดย สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน เครือเจริญโภคภัณฑ์

28 ตุลาคม 2558

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมิน (ณ ต.ค. 58) ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะขยายตัวร้อยละ 3.1 ชะลอตัวลงจากปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.4 และต่ำกว่าร้อยละ 3.3 จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ (ก.ค.58) โดยเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาจะขยายตัวลดลง โดยเฉพาะจีน ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงของความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุน อย่างไรก็ตาม IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2559 จะเติบโตที่ร้อยละ 3.6

 ในปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้น จากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังคงนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้  ซึ่ง IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวร้อยละ 2.6 ในปี 2558 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.4 ในปี 2557  

ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปปรับตัวดีขึ้นเช่นกันในทุกภาคส่วน จากการขยายตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น อิตาลีและสเปน  โดยมีความเสี่ยงจากกรีซลดลง ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของยูโรโซนคือราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ มาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) (Asset Purchase Programme: APP) ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องของสินเชื่อในภาคธุรกิจและครัวเรือน รวมทั้งทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกของยูโรโซนปรับตัวดีขึ้น

ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังคงขยายตัวช้า แต่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากค่าจ้างที่แท้จริงได้ปรับสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลง รวมถึงจากการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลด้วยมาตรการ QE จากธนาคารกลางญี่ปุ่น (Quantitative and Qualitative Monetary Easing: QQE) การเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐและการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างด้านแรงงาน ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมากขึ้นต่อจากนี้ ทั้งนี้ IMF คาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวดีขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ปรับตัวดีขึ้นจากที่หดตัวร้อยละ 0.1 ในปี 2557 ที่ผ่านมา 

สำหรับเศรษฐกิจจีนนั้น ชะลอความร้อนแรงลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยขยายตัวร้อยละ 7.0 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เป็นผลจากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่ต้องการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลงมาก รัฐบาลจีนจึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 7 ในปีนี้ 

อย่างไรก็ตามความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดเงินและตลาดทุนจีนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้  ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะเติบโตที่ร้อยละ 6.8 ลดลงจากปี 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.3 ในขณะที่เศรษฐกิจอาเซียน (10 ประเทศ) โดยรวมจะชะลอตัวลงจากปี 2557 ที่ผ่านมา ยกเว้น ไทย ลาว และ เวียดนาม ที่ขยายตัวดีขึ้น และคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นทุกประเทศในปี 2559 ยกเว้นมาเลเซีย

ทางด้านเศรษฐกิจไทยปี 2558 จะยังคงขยายตัวช้า เพราะขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญ มีเพียงการใช้จ่ายของภาครัฐและการท่องเที่ยวเท่านั้น ขณะที่ความต้องการอื่นๆ โดยเฉพาะการส่งออกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 4 กลุ่มมาตรการ ในวงเงินรวมมากกว่า 312.3 พันล้านบาท (ร้อยละ 2 ของ GDP)  ได้แก่ (1) มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ (2) มาตรการการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือ SMEs (3) นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ และ (4) มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในระดับล่างที่กระจายตัวอยู่ทั่วไป

นอกจากนี้รัฐบาลยังได้รวบรวมและเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านการลงทุนระบบขนส่งของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงไปทั้งสิ้น 2.0 ล้านล้านบาท (ประมาณร้อยละ 15 ของ GDP) และคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนรวมของประเทศให้ขยายตัว ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สถาบันต่างๆ ในไทยและต่างประเทศ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 2.5-3.2 และร้อยละ 3.2-3.7 ในปีหน้า

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทข้ามชาติแห่งแรกในจีนจดทะเบียนการค้าหมายเลข 000...

17 พฤษภาคม 2560
26647

การบริหารงานบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในยุค 4.0...

08 พฤศจิกายน 2560
21966

โครงการเลี้ยงไก่ไข่อาหารกลางวันนักเรียน การ “ให้” อย่างมีคุณค่า ทั้งด้...

03 กรกฎาคม 2558
20583

Cage Free Eggs ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของผู้บริโภ...

18 กรกฎาคม 2562
12704

แชร์ข่าวสาร

“สมาคมเกษตรกร” พัฒนาภาคการเกษตรไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน ยึด... 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย: กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต...
  • CP Group
  • เครือเจริญโภคภัณฑ์
  • สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน
  • เศรษฐกิจ
  • Economic

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

“มาริษา เจียรวนนท์” บนเส้นทางรังสรรค์ อาหารเพื่อสังคม ผ่านมูลนิธิ CHEF...

23 พฤศจิกายน 2564
3902

สูตรรอด 'CPF' อยู่ร่วมโควิด กระจายความเสี่ยง 47 ประเทศ...

30 สิงหาคม 2564
3638

ทำความรู้จัก “สบขุ่นโมเดล”: CP ร่วมพัฒนา พลิกเขาหัวโล้นให้กลายเป็นผืนป...

13 กรกฎาคม 2564
4405

CP ชูกลยุทธ์ขับเคลื่อน Social Enterprise ผู้นำหญิงนักพัฒนา ก้าวสู่ชุมช...

07 กรกฎาคม 2564
4230

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th