ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ที่สังคมและโลกต้องตระหนัก การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็หันมาให้ความสนใจกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกันเป็นจำนวนมาก ในประเทศไทยเองก็เกิดการตระหนักและการก้าวเข้าสู่การทำงานด้านความยั่งยืนโดยคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
นางสาวนิชธาวัลย์ มีอาจ (นิว) คือหนึ่งในคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้ก้าวเข้ามาทำงานด้านความยั่งยืนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการพัฒนาและยกระดับชุมชน ที่สำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จ.น่าน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นสำนักงานด้านความยั่งยืนแห่งแรกของเครือฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืน และพัฒนาชุมชนอย่างใกล้ชิดและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น เธอคาดหวังว่าโอกาสในการทำงานครั้งนี้ จะสามารถสานต่อจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาชุมชนและเกษตรกรใน จ.น่าน บ้านเกิดของเธอ โดยเธอได้ลงพื้นที่ พุดคุยกับเกษตรกร วิสาหกิจต่าง ๆ ได้ลงมือทำจริง ทำให้เข้าใจในความต้องการและเข้าใจปัญหาของชุมชนและเกษตรกรเพื่อให้สามารถคิดวางแผนแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาสำคัญที่เจอในชุมชน คือ การขาดการเข้าถึงโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยน และพัฒนาการทำเกษตรหรือการประกอบอาชีพ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชนหรือเกษตรกร จึงจำเป็นต้องถ่ายทอดความรู้และนวัตกรรมใหม่สู่ชุมชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนขับเคลื่อนและพัฒนาได้ด้วยตนเอง จนชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้
โอกาสทางการศึกษาจากเครือฯ ในทุนการศึกษา ‘คนน่านไม่ทิ้งกัน’ เธอได้สมัครและผ่านเข้ารอบเป็น 1 ใน 10 คน จากนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมทั่วทั้ง จ.น่าน และได้เป็นนักศึกษาทุนคนน่านรุ่นแรก หลังจาก 4 ปี แห่งการศึกษาและการทดลองปฏิบัติงานจริง เธอสามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 กับเกรดเฉลี่ย 3.56 ในคณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) สร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัว และก้าวสู่การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนอย่างเต็มตัว เธอตั้งเป้าหมายจะศึกษารูปแบบการพัฒนาชุมชนและการทำการเกษตรที่ประสบผลสำเร็จสามารถต่อยอดได้ เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานร่วมกับชุมชน เพราะเธออยากจะตอบแทนให้กับผู้ที่มีพระคุณ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว ครู อาจารย์ รวมถึงคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ที่ให้ทุนการศึกษาและให้โอกาสลูกหลานของเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและมีองค์ความรู้ จากเดิมที่ครอบครัวต้องทำงานหนัก ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และรายรับที่ได้ก็ยังไม่อาจเพียงพอต่อการใช้ชีวิตมากนัก ให้สามารถเข้าถึงทางเลือกอื่นที่ดีขึ้นได้
นอกจากนี้ นายบัญชา โชติกำจร ผู้อำนวยการสนง.ด้านความยั่งยืนฯ ยังได้เผยถึงแนวคิดในการบริหารงานด้านความยั่งยืนที่ได้คนรุ่นใหม่ทำงานร่วมว่า ‘คนรุ่นใหม่มีแนวคิดแปลกใหม่และมีนวัตรกรรมติดอยู่กับตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม ผมคิดว่าการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงจำเป็นต้องสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้มีพื้นที่ใช้ศักยภาพของพวกเขาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม’ โดยสนง.ด้านความยั่งยืนฯ ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และสิ่งสำคัญ คือ การส่งเสริมระบบเศรษฐกิจชุมชน ให้ชุมชนยืนอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเกื้อกูล
เครือฯ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกแนวทางที่สามารถทำได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะคืนธรรมชาติ สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ดังค่านิยมที่องค์กรยึดถือ พร้อมทั้งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้มีพื้นที่แสดงศักยภาพ และก้าวมาสู่กาารทำงานขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนให้มากขึ้นอีกในอนาคต