การเปิดกว้างมากขึ้นของเซี่ยงไฮ้ ...

การเติบใหญ่ที่ไม่หยุดยั้งของจีน

โดยที่จีนเป็นตลาดที่ใหญ่และเปี่ยมด้วยศักยภาพ แม้ว่าในภาพรวมเศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในภาพย่อยกลับพบว่า โครงสร้างเศรษฐกิจจีนเปลี่ยนจากการพึ่งพากำลังภายนอกมาสู่กำลังภายใน กล่าวคือ ภาคการบริโภคภายในประเทศของจีนยังคงขยายตัวในอัตราที่สูง ทำให้สินค้าและบริการของนานาประเทศต่างต้องการเพิ่มส่วนแบ่งจากเค้กก้อนนี้ด้วยกันทั้งนั้น และงาน CIIE ได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเวทีที่สำคัญเพื่อการนี้

ทันทีที่การจัดงานในปีนี้สิ้นสุดลง ผู้จัดงานก็ประกาศแนวคิดและเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมงานครั้งที่ 3 ในปีหน้ากันแล้ว โดยผู้จัดงานได้ออกแบบพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วนสำคัญ อันได้แก่ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ (Technology and Equipment) สินค้าอุปโภคบริโภคและชีวิตอัจฉริยะ (Consumer Goods and Smart Life) อาหารและสินค้าเกษตร (Food and Agricultural Products) และบริการและการดูแลสุขภาพ (Services and Healthcare) จะเห็นได้ว่า งาน CIIE ในครั้งต่อ ๆ ไปกำลังขยับจากสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคไปสู่สินค้าเทคโนโลยีและบริการเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการหลายรายที่ไปร่วมจัดแสดงในงานฯ ผมได้รับคำตอบว่า ยอดขายและคำสั่งซื้อในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยกระแสความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เองก็ส่งผลให้มีผู้ประกอบการต่างชาติจำนวนมากกว่า 230 ราย รวมพื้นที่กว่า 84,000 ตารางเมตรที่ตกลงจองพื้นที่เข้าร่วมงานนี้ข้ามปีไปเรียบร้อยแล้ว

แบรนด์ใหญ่หลายราย อาทิ เครื่องสำอางระดับโลกอย่างL’Oreal และ Shiseido ก็ยังตั้งใจขยายขนาดพื้นที่จัดแสดงสินค้าเพื่อนำเสนอสินค้าใหม่อื่น และแสดงถึงพัฒนาการทางธุรกิจในเชิงบวกของตนเองอีกด้วย แม้กระทั่งสถาบันการเงินหลักอย่าง Bank of China และ HSBC ก็ตอบรับเข้าร่วมงานพร้อมกิจกรรมเสริมมากมายในปีหน้า

งาน CIIE นี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการในตลาดจีนในระยะยาว งานนี้มีค่าใช้จ่ายสูง เน้นการเจรจาการค้า ไม่ใช่งานขายปลีกอย่างที่หลายคนเข้าใจ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจออกงานฯ นี้ไม่ว่าจะในหมวดสินค้าใดก็ตาม ผมแนะนำให้ท่านเอาจริงเอาจัง โดยบรรจุงานนี้เข้าไปอยู่ในแผนงานประจำปีของบริษัทของท่าน และตั้งคณะทำงานเพื่อตระเตรียมสินค้า การออกแบบตกแต่งคูหา การนำเสนอสินค้า วิธีการสื่อสารกับลูกค้า และกิจกรรมพิเศษ โดยผู้บริหารระดับสูงควรให้ความสำคัญและติดตามความคืบหน้าในการเตรียมงานดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ประการสำคัญ ทีมงานที่จะมาร่วมงานก็ควรฟิตซ้อมร่างกายไว้แต่เนิ่นๆ เพราะนอกจากจะต้องเดินเยอะแล้วยังต้องพูดคุยและให้บริการกับผู้เยี่ยมชมงานจำนวนมากกว่างานใดๆ ที่เคยผ่านมา นอกจากนี้ ท่านอาจใช้ประโยชน์จากเวทีไทยแลนด์พาวิลเลียนที่ G-Hub เพื่อต่อยอดความพยายามในการเจาะและขยายตลาดสินค้าและบริการของท่านให้เกิดเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

โดยที่เซี่ยงไฮ้ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะก้าวขึ้นเป็นเมืองน่าอยู่ของโลก (Excellent Global City) ในปี 2035 ผมจึงเชื่อมั่นว่าตลาดอาหาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต ยา เครื่องมือแพทย์ และบริการดูแลรักษาสุขภาพ และอื่นๆ ของจีนจะเปิดกว้างและเติบใหญ่ต่อไปในเชิงคุณภาพ เราสามารถคาดการณ์ถึงการขยายตัวของคนชั้นกลางและมาตรฐานการครองชีพที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกหลายปีในอนาคต ขณะเดียวกัน ระดับของการพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศอื่นๆก็จะขยับสูงและกว้างขวางยิ่งขึ้นในอนาคต

นครเซี่ยงไฮ้จะยังคงสืบสานความสำคัญในการเป็นประตูเศรษฐกิจสู่จีน โดยพัฒนาจากยุคเปิดประเทศเมื่อ 40 ปีก่อนที่เศรษฐกิจมุ่งเติบโตในอัตราที่สูง ไปสู่ยุคเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเล
(BRI) ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพในปัจจุบันและอนาคต โดยมีงาน CIIE เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้เซี่ยงไฮ้ได้ทำหน้าที่สำคัญดังกล่าว

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผู้ประกอบการไทยเข้ามาร่วมออกคูหาและเยี่ยมชมงาน CIIE จำนวนมากขึ้นในปีหน้านะครับ

ที่มา: คอลัมน์มังกรกระพือปีก ฐานเศรษฐกิจ