โซนธุรกิจ...ชาติตะวันตก

ครองแชมป์ความตื่นตาตื่นใจ

ในส่วนของโซนธุรกิจ ซึ่งจำแนกตามประเภทสินค้า พบว่าขนาดพื้นที่ คุณภาพ และการจัดการงานแสดงสินค้าในปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยในปีนี้มีกิจการต่างชาติรวมเกือบ 3,900 บริษัทจาก 64 ประเทศที่เข้าร่วมจัดแสดง โดยกิจการของประเทศพัฒนาแล้วได้ลงทุนออกแบบก่อสร้างพาวิเลียนใหญ่ และยังนำสินค้า เทคโนโลยี และบริการใหม่มากถึงเกือบ 400 รายการมานำเสนอ

ธุรกิจกลุ่ม Kering, Unilever และ Lego ต่างนำผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวในงานและเป็นจุดดึงดูดผู้เข้าเยี่ยมชมของอาคารสินค้า Lifestyle ไปเลย ขณะที่เจลาโต้ชื่อดังของอิตาลีอย่าง Grom ซึ่งเปิดแฟรนไชส์ร้านกระจายอยู่หลายจุดสำคัญในเซี่ยงไฮ้ ก็นำเอาสินค้าที่ทำจากวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ 100% มาจับกระแสคนรักสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรม อาทิ เครื่องทำความสะอาดผมที่ไม่ใช้นํ้า และรองเท้าวิ่งส้นสูงที่ทำมาจากวัสดุพิเศษ อีกสินค้าหนึ่งที่เป็นแม่เหล็กที่ผู้เยี่ยมชมงานอดแวะไปถ่ายรูปด้วยไม่ได้ ก็คือ เครื่องสุขภัณฑ์ทองคำประดับเพชร 40,000 เม็ด ซึ่งมีราคาแพงที่สุดในโลก จึงอาจกล่าวได้ว่า งานนี้ได้ก้าวขึ้นเป็นแหล่งรวมแบรนด์ดัง และสินค้านวัตกรรมจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

ท่านผู้อ่านอาจสงสัยว่าธุรกิจจากประเทศไหนที่คว้าแชมป์ใช้พื้นที่มากที่สุด คำตอบคือ ธุรกิจของสหรัฐฯ ใช้พื้นที่จัดแสดงรวมถึง 47,500 ตารางเมตร โดยในปีนี้มีกิจการเข้าร่วมงานถึง 192 บริษัท เพิ่มขึ้น 18% ของปีก่อน และขณะที่ปานามาก็แสดงถึงการให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนผ่านงานนี้ ด้วยการนำธุรกิจเข้าร่วมงานถึง 40 บริษัท เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา

ประการสำคัญ ผู้เข้าร่วมงานในแต่ละรายยังต่างพยายามรังสรรค์รูปแบบในการนำเสนอและจัดกิจกรรมสารพัดเพื่อดึงดูดคนได้อย่างน่าสนใจ โดยอาคาร 2.1 ซึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงรถยนต์นับเป็นจุดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่รักความเร็วบนท้องถนน เพราะบริษัทรถยนต์ต่างขนเอารถยนต์ตัวท็อปรุ่นใหม่มาประชันโฉมและให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานได้มีโอกาสสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และที่โดดเด่นมากก็คือ รถบินได้สัญชาติสโลวะเกีย ซึ่งพัฒนาสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว และรถยนต์ยี่ห้อ Aurus สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกับรถยนต์ประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีรัสเซีย โดยคันที่เอามาจัดแสดงในปีนี้เป็นรถลิมูซีนรุ่นพิเศษที่พ่นสีด้วยลูกเล่นสลับสีขาวดำ

ขณะที่ Caterpillar ผู้ผลิตเครื่องจักรกลขนาดใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างจากค่ายสหรัฐฯ แม้จะไม่สามารถนำสินค้าจริงมาจัดแสดงภายในพื้นที่งานได้ แต่ก็แก้ปัญหาด้วยการนำเอาโมเดลสินค้าขนาดเล็กใหญ่นับร้อยชิ้นมาจัดแสดงในพาวิลเลียนของตนเอง เพื่อให้ผู้สนใจได้เห็นหน้าตา สัมผัส และเข้าใจถึงความสามารถของเครื่องมือในแต่ละชนิดได้อย่างแยบยล

แต่สำหรับผมแล้ว อาคารที่คึกคักมากสุดในปีนี้ก็ยังคงหนีไม่พ้นอาคาร Food and Agriculture ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 อาคาร อันได้แก่ อาคาร 7 อาคาร 8.1 และอาคาร 8.2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคาร 8.1 ที่มีพาวิลเลียนของซีพีและกิจการของไทยหลายรายเข้าร่วมอยู่ โดยในปีนี้ พาวิลเลียนซีพียังคงใช้พื้นที่ขนาด 500 ตารางเมตรนำเสนอสินค้าอาหารเช่นเดิม ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในพาวิลเลียนที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมชนิดแน่นตลอดงาน และรายการสินค้าเด่น ๆ ที่แฝงไว้ซึ่งนวัตกรรม อาทิ

• เนื้อไก่เบญจา ซึ่งเป็นเนื้อไก่ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง ไม่ตัดต่อพันธุกรรม และไม่ใช้สารปฏิชีวนะ ทำให้เนื้อไก่มีสารอาหารที่สมบูรณ์ ไม่มีกลิ่นคาว เนื้อนุ่มฉํ่า แถมยังสามารถสืบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยคุณภาพเนื้อไก่ดังกล่าวทำให้เชฟมิชลินนำมาใช้ในการปรุงอาหารจานเด่น

• กุ้งจาก CPF ซึ่งเป็นกุ้งที่เลี้ยงในฟาร์มระบบปิด ทุกขั้นตอนไม่ใช้สารปฏิชีวนะหรือสารเคมีใดๆ ปราศจากโรค และสามารถสืบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนการผลิต จึงมีความปลอดภัย คุณภาพสูง และมีรสชาติดีเยี่ยม ประการสำคัญ กุ้งเหล่านี้ยังถูกขนส่งด้วยระบบโลจิสติกส์แบบแห้งที่สามารถรักษาความสดใหม่ของสินค้าไว้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

• ไข่ไก่ เป็นไข่ไก่สดมาตรฐานโลกคัดเลือกไก่ไข่จากพันธุ์พิเศษของสหรัฐฯไม่เลี้ยงในกรง ไข่มีแคลเซียมสูง อุดมด้วยวิตามินเอ บี 1 และบี 2 และไม่มีสารเจือปน

• เนื้อหมูดำ (คุโรบุตะ) เลี้ยงด้วยสารอาหารที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีสารปฏิชีวนะและสารเร่งการเจริญการเติบโต จึงทำให้หมูแข็งแรง เนื้อมีความฉํ่า หอม และนุ่มอร่อย

• รังนกถํ้าคุณภาพสูงจากภาคใต้ของไทยที่ทุกดอกมีสติ๊กเกอร์ที่สามารถสืบย้อนกลับถึงต้นทางได้

• อาหารสัตว์เลี้ยง แบรนด์ Jerhigh และ Jinny ซึ่งเป็นสินค้าภายใต้ International Pet Food Co., Ltd. ในเครือ CPF ที่ผลิตในมาตรฐานระดับสูงเช่นเดียวกับอาหารมนุษย์ จึงทำให้มีรสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพของสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยังหลากหลายครอบคลุมทั้งอาหารแห้ง อาหารเปียก และอาหารว่าง

ผมแนะนำว่าผู้ที่สนใจเยี่ยมชมอาคารอาหารควรต้องจัดสรรเวลามากกว่า 1 วันสำหรับพื้นที่นี้กันเลย เพราะผู้ร่วมงานเล็กใหญ่แต่ละรายนำเสนอสินค้าและกิจกรรมมากมายจริง ๆ หลายรายที่มีพื้นที่คูหาจำกัด ก็พยายามตกแต่งคูหาและนำเสนอสินค้าอย่างสร้างสรรค์

หนึ่งในตัวอย่างของความสำเร็จของผู้เข้าร่วมงานที่มีพื้นที่น้อย ได้แก่ Zambia Mpundu Wild Honey Co., Ltd. ผู้ผลิตนํ้าผึ้งธรรมชาติจากแซมเบีย ซึ่งให้ความสำคัญกับการตกแต่งคูหาในพื้นที่คูหาเพียง 9 ตารางเมตรของตนเองอย่างสร้างสรรค์ บริษัทยังขยายความสำเร็จจากการเข้าร่วมงานในปีที่แล้วด้วยการนำเสนอสินค้าหลากหลายขนาดและรูปแบบ ทั้งแบบกระปุกและแบบซอง โดยยังคงยึดกลยุทธ์เดิมที่เชื้อเชิญให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแวะลิ้มรสนํ้าผึ้งเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 คน นี่จึงเป็นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้คนให้แวะมาเยี่ยมคูหาเล็กๆ นี้จนทำให้คึกคักตลอดงาน ซึ่งผลปรากฏว่า ในปีนี้บริษัทคว้าสัญญาสั่งซื้อนํ้าผึ้งมูลค่าหลายสิบล้านหยวนติดมือกลับบ้านไป

อนึ่ง ภายหลังความสำเร็จในการเข้าร่วมงานในปีแรก บริษัทได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องบรรจุนํ้าผึ้งมูลค่า 500,000 หยวนจากมณฑลกวางตุ้งและเจ้อเจียง และเพิ่มพนักงานเลี้ยงผึ้งอีกกว่า 300 คน รวมทั้งประสบความสำเร็จในการส่งออกนํ้าผึ้งล็อตแรกสู่ตลาดจีนได้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ในมุมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผมสังเกตเห็นเหล้า ไวน์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อื่นหลายร้อยแบรนด์วางเรียงรายอยู่ และคิวยาวเหยียดของนักดื่มที่ต้องการลิ้มลองไวน์ชั้นดีหลายสิบยี่ห้อที่มาร่วมงาน หนึ่งในบริษัทระดับโลกที่มาจัดแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ Pernod Richard ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดจีนที่ผู้บริโภคมีรสนิยมและพฤติกรรมการดื่มที่เป็นสากลมากขึ้นในช่วงหลายปีหลัง โดยนำเอาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ใหม่ในหลายระดับจาก 5 ภูมิภาคมานำเสนอ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นยอดขายในตลาดจีนของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับของปีที่ผ่านมา  (อ่านต่อฉบับหน้า)

ที่มา: คอลัมน์มังกรกระพือปีก  ฐานเศรษฐกิจ