จบลงไปอย่างงดงามและยิ่งใหญ่สำหรับงานแสดงสินค้านำเข้าระหว่างประเทศแห่งชาติจีน “จิ้นปั๋วหุ่ย” (China International Import Expo) ครั้งที่ 2 ท่านผู้อ่านอาจรู้จักหรือผ่านหูผ่านตางานแสดงสินค้าฯ นี้ในชื่อย่อว่า งาน CIIE วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปซึมซับบรรยากาศของงานในปีนี้ โดยที่ท่านไม่ต้องปวดเมื่อยขาแข้งและระบมฝ่าเท้าเหมือนผมกันนะครับ

ภาพรวมของการจัดงาน ... ใหญ่และดีกว่าเดิม

ดังเช่นปีที่ผ่านมา งาน CIIE ในครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การประชุมและจัดแสดงสินค้าระหว่างประเทศแห่งชาติจีน (China International Convention and Exhibition Center) ณ นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1.47 ล้านตารางเมตร โดยนับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่งาน CIIE นี้ได้รับเกียรติจากท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธานในการเปิดงานด้วยตัวท่านเอง

การจัดงานครั้งนี้ใช้พื้นที่จัดแสดงสินค้ารวมทั้งสิ้น 360,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นถึง 60,000 ตารางเมตรจากปีก่อน งาน CIIE ในปีนี้จึงทำลายสถิติงานแสดงสินค้านำเข้าที่ใหญ่สุดในโลกของปีก่อนอีกครั้ง โดยพื้นที่จัดแสดงภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ โซนพาวิลเลียนประเทศและองค์การระหว่างประเทศ และโซนธุรกิจ ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ ท่านผู้อ่านจึงมั่นใจได้ว่า หากเดินเยี่ยมชมงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น ท่านจะทำลายสถิติจำนวนก้าวเดินต่อวันที่ตั้งค่าไว้ในสมาร์ทโฟนของท่าน 2-3 เท่าตัวอย่างแน่นอน

โซนพาวิลเลียนประเทศ ... ใครเด่น ใครดัง

พาวิลเลียนประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างสร้างสีสันด้วยการออกแบบและตกแต่งพาวิลเลียนที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ผู้จัดงานยังจัดพื้นที่พิเศษสำหรับการ นำเสนอภูมิปัญญาชาวบ้านระดับมรดกทางวัฒนธรรมและแบรนด์เก่าแก่ของจีน โดยได้เชิญปรมาจารย์ในแต่ละด้านและสินค้าเด่นในแต่ละประเภทมาสาธิตจัดแสดง และนำเสนอ โดยออกแบบพื้นที่เป็น 3 ส่วน ได้แก่ Shikumen (ฉือคู่เหมิน) บ้านพักสไตล์เซี่ยงไฮ้ที่ผสมผสานองค์ประกอบความเป็นตะวันตกและจีนที่เข้ากัน อย่างลงตัว Jiangnan Residence บ้านพักสไตล์เจียงหนาน ตอนใต้ของปากแม่นํ้าแยงซีเกียง และ Shanghai Times มรดกทางวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้สารพัดด้านไม่ว่าจะเป็นการเย็บปักถักร้อย แกะสลัก และอื่นๆ อีกด้วย

หลายชาติใช้โอกาสนี้นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมและจุดแข็งทางเศรษฐกิจของตน เอง ในบรรดากว่า 60 พาวิลเลียนประเทศที่ร่วมงาน ที่โดดเด่น มากสุดคงหนีไม่พ้นพาวิลเลียนของจีนที่นำเสนอผ่านแนวคิดหลัก “70 ปีของความสำเร็จ
ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของประเทศที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว” ด้วยขนาดพื้นที่ถึง 1,500 ตารางเมตร
พาวิลเลียนของจีนนับว่าใหญ่สุดในงาน ยิ่งเมื่อผสมผสานกับการตกแต่งที่มีลวดลายสีสันสวยงาม และการนำเสนอสาระทั้งโบราณวัตถุ ภาพวาดงานศิลป์ และสินค้าและบริการอันทันสมัยและมีคุณภาพดี รวมทั้งภาพเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตา ตื่นใจเข้าด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้พาวิลเลียนของเจ้าภาพเป็นจุดสนใจและสร้างเสริมความภาคภูมิใจในชาติแก่ชาวจีนและความชื่นชม จากชาวต่างชาติที่หลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนกันอย่างหนาแน่นยิ่ง

พาวิลเลียนของฝรั่งเศสก็โดดเด่นและน่าสนใจด้วยการนำเสนอสภาพชีวิตความเป็นอยู่ สถานที่ท่องเที่ยว และความทันสมัยของประเทศผ่านหลายจอแอลอีดีขนาดใหญ่และอุปกรณ์วีอาร์ ซึ่งก็ได้รับความชื่นชมอย่างมากจากผู้เข้าเยี่ยมชม ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ในปีนี้ ผู้นำของฝรั่งเศสนำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนมาร่วมงานด้วยตนเอง โดยใช้โอกาสนี้ฉลองครบรอบ 55 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างฝรั่งเศสและจีนด้วยการประกาศยกระดับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศไปสู่อีกระดับหนึ่ง และบรรลุความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในหลายโครงการใหญ่ อาทิ พลังงานนิวเคลียร์ การบินและอวกาศ และนวัตกรรม คิดเป็นมูลค่ารวม 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันพัฒนาความร่วมมือในประเทศที่ 3 ซึ่งเป็นพันธมิตรของฝรั่งเศสเดิม

ขณะเดียวกัน ไทยเราก็เข้าร่วมในฐานะ 1 ใน 15 ประเทศแขกรับเชิญพิเศษ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ อาทิ มุมสินค้านวัตกรรม มุมสินค้า Thailand Mark ที่ได้รับการประกันคุณภาพ สินค้าในโครงการ 10/10 ที่มุ่งพัฒนาแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศ และมุมแนะนำการลงทุน แต่จากการสอบถามผู้เข้าเยี่ยมชมงานกลับได้รับคำตอบว่า คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่เห็นพาวิลเลียนไทย หรือไปแล้วแต่ไม่ประทับใจบ้าง บางรายแอบชื่นชมพาวิลเลียนของกัมพูชาว่าโดดเด่นมากกว่าของไทยเสียอีก จึงอาจนับได้ว่า ประเทศไทยมิได้ใช้โอกาสจาก งานนี้ในการต่อขยายชื่อเสียงและเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ดีพอ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทำเลที่ไม่ค่อยดี ความใหญ่ของงาน และการนำเสนอสินค้าและองค์ประกอบที่ขาดความน่าสนใจ อย่างไรก็ดี ผู้รับผิดชอบก็คาดหวังว่า พาวิลเลียนไทยจะสามารถเพิ่มยอดคำสั่งซื้อภายใน 1 ปีได้ราว 1,000 ล้านหยวนจากการร่วมงานในครั้งนี้

ที่มา: คอลัมน์ มังกรกระพือปีก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ