• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

การประกันภัยให้กับเกษตรกร Contract Farming ครั้งแรกของประเทศไทย


โดย คุณสุภาพร ฉัตรฉายแสง

17 กรกฎาคม 2562

เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักด้านการเกษตร โดยมีหลักคิดว่า ‘เกษตรกรคือคู่ชีวิต’ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ได้กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ปี 2020 ด้านคุณค่าทางสังคม ด้วยการส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย จึงมีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทในเครือฯ ทำประกันภัยให้กับเกษตรกร ในโครงการเกษตรพันธสัญญา หรือ Contract Farming เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกร ซึ่งกล่าวได้ว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ประกอบการรายแรกในระบบ Contract Farming ของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารความเสี่ยงแทนเกษตรกรรายย่อยทั้งในประเภทประกันรายได้ หรือแบบฝากเลี้ยง และประเภทประกันราคา

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีการทำประกันภัยให้กับเกษตรกรคู่สัญญาทั้งที่กฎหมายไม่ได้บังคับและเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยปัจจุบัน บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ได้เดินหน้าตามนโยบายประกันภัยให้แก่เกษตรกร Contract Farming ได้ทำประกันภัยแก่เกษตรกรรายย่อยทั้งหมดที่อยู่ในโครงการ Contract Farming ของซีพีเอฟ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนเกือบ 6,000 ราย 

บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ได้จัดทำประกันภัยอาคารโรงเรือน อุปกรณ์การเลี้ยง และสต็อกสินค้าสิ่งมีชีวิตให้แก่เกษตรกร ให้การสนับสนุนการประกันภัยเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกรรายย่อย โดยไม่รวมเกษตรกรรายใหญ่ (ผู้ประกอบการที่มีเงินทุนและดำเนินธุรกิจในลักษณะเป็นตัวแทน) ภายใต้โครงการสัญญาการเลี้ยงแบบฝากเลี้ยงและประกันราคาของบริษัทฯ เริ่มต้น ฉบับแรกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเริ่มมีการเอาประกันภัย ปีที่ 1 ระยะเวลา 1 กันยายน 2560 - 1 สิงหาคม 2561 และปีที่ 2 ระยะเวลา 1 สิงหาคม 2561 - 1 สิงหาคม 2562 

สำหรับโครงการสัญญาแบบฝากเลี้ยงนั้น บริษัทจะสนับสนุนการทำประกันภัยในส่วนของอาคารโรงเรือน ซึ่งได้แก่ 1. ไก่พื้นเมือง 2. ไก่กระทง 3. เป็ดไข่ 4. สุกรพันธุ์ 5. สุกรพันธุ์ - ทดแทน 6. สุกรขุน ส่วนสัญญาแบบประกันราคา จะสนับสนุนการทำประกันภัยอาคารโรงเรือนและสต็อกสินค้าสิ่งมีชีวิตให้แก่เกษตรกร ซึ่งได้แก่ 1. ไก่กระทง 2. ไก่ไข่ 3. เป็ดเนื้อ 

ในส่วนของกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน ซึ่งปัจจุบันทำกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุ้มครองอาคาร โรงเรือน อุปกรณ์การเลี้ยง และระบบสาธารณูปโภคของเกษตรกรรายย่อย โดยมีค่าเบี้ยประกันภัย 0.084 % ความคุ้มครองตามระบุภัยที่กำหนดไว้ภายใต้กรมธรรม์ กรณีมีความเสียหายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ชดเชยตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินทุนประกันภัย ความเสียหายจากการจลาจล นัดหยุดงาน เจตนาร้าย ชดเชยตามความเสียหายจริง แต่ไม่เกินทุนประกันภัย ขณะที่กรณีเกิดภัยธรรมชาติ เช่น พายุ แผ่นดินไหว ลูกเห็บ น้ำท่วม จะให้ความคุ้มครองตามประเภทของภัยภายใต้วงเงิน 500 ล้านบาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 1,000 ล้านบาท /ต่อปี กรณีความเสียหายต่อระบบไฟฟ้า จากการลัดวงจร การใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง 50 ล้านบาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 100 ล้านบาท /ต่อปี อย่างไรก็ตาม เฉพาะส่วนภัยน้ำท่วมมีเงื่อนไขเรื่องความรับผิดส่วนแรกอยู่ที่ 10% ของความเสียหาย หรือขั้นต่ำ 50,000 บาท ต่อครั้ง ซึ่งหมายความว่าถ้ามีความเสียหายส่วนนี้เกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายก่อนเคลม

ด้านการประกันภัยสต็อกสิ่งมีชีวิต บริษัทรับประกันภัย ได้แก่ บริษัท อลิอันซ์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกชนิดจากสาเหตุภายนอก รวมกรณีที่ส่งผลให้สัตว์ขาดอากาศหายใจ ภายใต้ Global Property Program แต่ยกเว้นสัตว์ที่ตายจากโรค โดยหากเกิดความเสียหาย อัตราค่าเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 0.063% โดยมีค่าความรับผิดส่วนแรก 10,000 เหรียญสหรัฐต่อครั้ง และทุกครั้ง ขณะที่มูลค่าการชดใช้จ่ายตามต้นทุนการเลี้ยง ณ วันเกิดเหตุ

สำหรับรายละเอียดการจัดประกันภัยปีแรกภายใต้สัญญาแบบฝากเลี้ยง ในปีแรกบริษัทช่วยเหลือเกษตรกรชำระค่าเบี้ยประกันภัยในช่วงเวลา 11 เดือน ทั้งในส่วนสัญญาแบบฝากเลี้ยงและประกันราคาเป็นเงินรวมอยู่ที่ราวๆ 8.2 ล้านบาท ขณะที่ปีที่ 2 ซึ่งเริ่มต้นอายุประกันเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนเบี้ยประกันที่ชำระเพิ่มขึ้นเป็น 8,918,184 บาท จำนวนเกษตรกรทำประกันภัยปีนี้อยู่ที่ 5,234 ราย 

มาถึงหมวดของการเรียกร้องค่าสินไหม ในปีกรมธรรม์แรกได้รับรายงานความเสียหายทั้งสิ้น 14 ราย มาจาก 3 โครงการส่งเสริมเกษตรกร โดยภาพรวมความเสียหายที่ได้รับแจ้งเป็นเงินทั้งสิ้น 876,772 บาท ได้รับค่าสินไหมทดแทน 764,772 บาท โดยปัจจุบัน ได้รับการชดใช้จากกรุงเทพประกันภัยไปแล้ว 7400,000 บาท คงค้างอยู่ประมาณ 20,000 บาท

จากนโยบายดังกล่าวเท่ากับว่าตอนนี้เกษตรกรรายย่อยที่อยู่กับโครงการ Contract Farming ของซีพีเอฟทุกรายที่มีการทำประกันภัยและเมื่อเกิดความเสียหายตามภัยที่คุ้มครองได้ก็จะสามารถเคลมค่าสินไหมได้

ส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังไม่มีการรับประกันสต็อกสิ่งมีชีวิต เราจึงต้องนำเข้ามาทำประกันรวมกับทรัพย์สินของเครือฯ โดยให้ความคุ้มครองแบบเดียวกัน เป็นกรณีไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ ความเสี่ยงภัยจากภายนอก แต่ก็มีกรณีพิเศษที่เราพยายามเพิ่มขึ้นมา เช่น บางทีเกิดระบบไฟฟ้าช็อตทำให้เครื่องปรับอากาศขัดข้องแล้วสัตว์ขาดอากาศหายใจ หรือเคยมีเคสงูเข้าไปในโรงเรือนแล้วสัตว์ตกใจตาย ถึงแม้ตัวสัตว์จะไม่ได้โดนไฟไหม้แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในความคุ้มครองได้

สมัยก่อนบริษัทประกันอาจจะมีหลักเรื่องการมีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินที่เอาประกัน แต่พอมาตอนนี้บริษัทเราทำประกันโดยพยายามยกผลประโยชน์ให้เกษตรกร และเป็นผู้เอาประกันเลย ซึ่งทางประกันภัยเองก็สามารถวัดตรงนี้ได้ กับกรุงเทพประกันภัยถือเป็นพันธมิตรทางการค้า เวลามีเคลม บางเคสในทางประกันอาจจะเคลมไม่ได้ ก็ต้องอาศัยว่าเชื่อใจกัน และมองภาพใหญ่ร่วมกัน คือช่วยเหลือเกษตรกรเป็นหลัก

ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดคือ การให้ความร่วมมือ การให้ความรู้ แล้วก็การพัฒนาระดับของภัยที่รับประกัน เช่น สภาพโรงเรือนให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นๆ ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน ถ้าสามารถทำได้ การประกันภัยจะช่วยยกระดับภาคการเกษตรได้เลย เพราะที่ผ่านๆ มา ถึงแม้เราบอกว่าต้องทำประกัน แต่บางทีเกษตรกรไม่มีกำลังที่จะทำ เพราะเบี้ยมันแพง ถ้าเทียบกับต่างประเทศที่มีระบบประกันที่พัฒนาแล้ว ค่าเบี้ยของเขาจะถูกกว่าเรา

 

อ้างอิงจาก : วารสารบัวบานฉบับที่ 8 


ARTICLE BY 
คุณสุภาพร ฉัตรฉายแสง 
รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สำนักประกันภัย เครือเจริญโภคภัณฑ์

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทข้ามชาติแห่งแรกในจีนจดทะเบียนการค้าหมายเลข 000...

17 พฤษภาคม 2560
26576

การบริหารงานบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในยุค 4.0...

08 พฤศจิกายน 2560
21872

โครงการเลี้ยงไก่ไข่อาหารกลางวันนักเรียน การ “ให้” อย่างมีคุณค่า ทั้งด้...

03 กรกฎาคม 2558
20471

Cage Free Eggs ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของผู้บริโภ...

18 กรกฎาคม 2562
12442

แชร์ข่าวสาร

6 หลุมพรางของ 'แบรนด์' ในยุค​ 'กับดัก Digitizing​ Creativity... Cage Free Eggs ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ เพื่อสุขภาพข...

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

“มาริษา เจียรวนนท์” บนเส้นทางรังสรรค์ อาหารเพื่อสังคม ผ่านมูลนิธิ CHEF...

23 พฤศจิกายน 2564
3786

สูตรรอด 'CPF' อยู่ร่วมโควิด กระจายความเสี่ยง 47 ประเทศ...

30 สิงหาคม 2564
3529

ทำความรู้จัก “สบขุ่นโมเดล”: CP ร่วมพัฒนา พลิกเขาหัวโล้นให้กลายเป็นผืนป...

13 กรกฎาคม 2564
4297

CP ชูกลยุทธ์ขับเคลื่อน Social Enterprise ผู้นำหญิงนักพัฒนา ก้าวสู่ชุมช...

07 กรกฎาคม 2564
4174

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th