ด้วยตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกที่ย่อยสลายยากและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว การปลูกจิตสำนึกลดการใช้พลาสติก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง และรู้หรือไม่ว่า ‘คนรุ่นใหม่’ เป็นกลุ่มที่เปิดรับตื่นตัวกับเรื่องนี้มากกว่าวัยอื่นๆ ดังเช่น 3 หนุ่มสาว ซึ่งมีบทบาทการทำงานแตกต่างกัน แต่มีหัวใจมุ่งมั่นที่จะลดและงดใช้พลาสติกบนหนทางเดียวกัน

เมลดา ศรีภาณุชาติ (เพียว) อายุ 28 ปี Senior BD Executive บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

               “ตอนอยู่ที่สหรัฐอเมริกาไม่มีการรณรงค์เรื่องลดการใช้พลาสติก ต่างจากเยอรมนีและประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่รณรงค์ลดการสร้างขยะ ลดการใช้พลาสติกอย่างจริงจัง โดยให้พกถุงไปทุกที่ หากต้องการถุงพลาสติกของที่ร้านก็ต้องซื้อ ถ้าดื่มน้ำจากขวดก็ต้องเก็บมารีไซเคิล หรือนำไปคืนที่ร้านก็จะได้เงินคืน และถ้าเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตจะเห็นได้ชัดว่า สบู่เหลวบรรจุขวดมีราคาแพงกว่าแบบเติมมากๆ

               “เพียวกลับมาอยู่เมืองไทยก็พกถุงผ้าด้วยความเคยชิน ไปเซเว่นฯ ก็ไม่รับถุง สมมติว่าถุงผ้าไม่พอใส่ต้องใช้ถุงพลาสติกจริงๆ ก็จะใส่ทุกอย่างลงไปในถุงเดียว... แน่นเลย (หัวเราะ) คือใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ยิ่งลดการใช้ได้มากเท่าไรก็ยิ่งดีค่ะ

               “เรื่องลดการใช้พลาสติกตอนนี้เหมือนเป็นเทรนด์ใหม่ของคนที่มีความรู้และใส่ใจโลกใบนี้ สร้างความรู้สึกเท่ๆ ชิกๆ ได้ด้วย

               “และนอกจากถุงผ้ายังมีเรื่องลดการใช้หลอดพลาสติก ยิ่งเพียวเห็นนวัตกรรมหลอดของสหรัฐอเมริกาที่พกพาสะดวกก็สนใจมาก แต่เนื่องจากเป็นสินค้าค่อนข้างใหม่และมีราคาสูง ก็รอให้มีคนนำเข้ามาขายอยู่ แต่ในภาพรวมก็หวังว่าจะได้เห็นคนไทยใช้หลอดที่ล้างแล้วใช้ซ้ำมากขึ้นนะคะ”

ณัฏฐ์ แจ่มกระจ่าง (เจสัน) อายุ 25 ปี ผู้จัดการ บริษัท วายแอนด์โอ จำกัด

               “เรื่องลดการใช้พลาสติก ผมทำมานานแล้ว ใช้ถุงผ้าตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเพราะมองว่าการใช้ถุงผ้าเป็นการลงทุนที่มีราคาถูกและสามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนการนำแก้วไปเองนี่ดีนะครับ นอกจากลดการใช้พลาสติกแล้ว บางร้านยังให้ส่วนลดค่าเครื่องดื่มถึง 10 บาท

               “แต่เท่าที่เห็น คนไทยก็ยังใช้พลาสติกกันเยอะอยู่ ผมอยากฝากว่า อย่าคิดว่าเรื่องพลาสติกไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตเรา มันเกี่ยวกับทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยเริ่ม เพราะปัญหาวันนี้จะไปสู่ลูกหลานของเราในวันข้างหน้า เริ่มที่ตัวเราเองก่อนได้เลยครับ ไม่ต้องรอใคร แค่รู้ตัวเองว่าได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงก็พอ อย่างที่เซเว่นฯ ซื้อของแล้วไม่รับถุงก็เท่ากับว่าได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และอย่าลืมแชร์ออกไปให้

คนอื่นรู้ว่าทำแล้วดีอย่างไร เพื่อเป็นแบบอย่างต่อไปครับ

               “อีกเรื่องที่อยากฝากคือ อยากให้ร้านค้าต่างๆ จัดโปรโมชั่นหรือให้ส่วนลด เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลดการใช้ถุงพลาสติก หลอดพลาสติก เพราะผมเชื่อว่าแรงจูงใจนี้จะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยได้... ไม่มากก็น้อยครับ”

ทิพวรรณ แพรกอุดม (ทิพ) อายุ 28 ปี Assistant Program Manager สถาบันพัฒนาผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ (Future Leader Program, CPLI)

               “เมื่อไรที่เจอเพื่อนๆ ในที่ทำงานก็จะรณรงค์ในรูปแบบของการเชิญชวนเพื่อนๆ มาลดการใช้พลาสติกร่วมกัน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในช่วงที่รับประทานข้าวเที่ยงกับทีมงานค่ะ เราจะคุยกันว่า ขอไม่ใช้หลอดนะ เทน้ำใส่แก้วนะ แล้วกระตุ้นให้ทุกคนดื่มจนหมด หรือถ้าใครดื่มจากขวดแล้วดื่มไม่หมดก็ให้พกขวดติดตัวไว้ดื่มต่อ

               “ตอนนี้หลายคนก็เกิดความเคยชินแล้ว นอกจากนี้ยังคอยสังเกตกันและกันด้วยว่า คนไหนใช้หลอด แต่ในภาพรวม สมาชิกส่วนใหญ่จะทำด้วยความสมัครใจ เป็นการร่วมมือกันทำตามกฎของกลุ่มค่ะ

               “โดยส่วนตัว ทิพลดการใช้พลาสติกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการใช้ถุงพลาสติกก็จะนำมาใช้ซ้ำๆ ค่ะ ส่วนแก้วน้ำ ปีนี้เพิ่งเริ่มพกแก้วน้ำไปซื้อเครื่องดื่มเป็นปีแรก แต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้พกก็จะสั่งเครื่องดื่มแล้วบอกคนขายว่า ไม่เอาหลอด ไม่เอาฝานะคะ และถ้าเจอเพื่อนที่ใช้ถุงพลาสติกเป็นประจำก็จะกระตุ้นเพื่อนในทำนองว่า รู้ไหม... ถุงพลาสติกใบแรกที่เกิดขึ้นยังอยู่บนโลกเราเลยนะ”