“ความซื่อสัตย์ ถือว่าสำคัญที่สุด จะเก่งแค่ไหนถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ ก็ถือว่าไม่มีความกตัญญู”
ในมุมมองของคุณประเสริฐ พุ่งกุมาร รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เชื่อมั่นว่า ‘ความซื่อสัตย์’ คือหัวใจสำคัญของคุณธรรมกตัญญู เพราะหากเก่งแค่ไหน แต่ไม่มีความซื่อสัตย์ต่อคนที่ทำดีกับตนเอง ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนดี มีความกตัญญู ดังนั้น จึงไม่ควรลืมบุญคุณของผู้ที่มอบสิ่งดีให้ตนเอง และเมื่อพร้อมก็ควรตอบแทนด้วยใจจริง
ซื่อสัตย์คือการแสดงความกตัญญู
“การซื่อสัตย์ เราถือว่าสำคัญที่สุด คุณจะเก่งแค่ไหน ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่มีความกตัญญูต่อบริษัทแล้ว มาถึงทำตำแหน่งใหญ่ขึ้น กลายเป็นคอร์รัปชัน ก็ถือว่าไม่กตัญญูต่อบริษัท ต้องตรงไปตรงมา อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องให้การอบรมเด็กรุ่นใหม่”
ยึดมั่นในแนวทางความกตัญญู
“คุณต้องพยายามทำตามแบบที่ท่านประธานอาวุโส (ธนินท์ เจียรวนนท์) ได้ให้โอวาทอยู่เรื่อยๆ ก็ต้องจับใจความให้ได้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ให้ศึกษาว่าการกตัญญูต่อบริษัทต้องทำอย่างไร โดยไม่ออกนอกขอบเขตการมีอำนาจก็ดี ต้องใช้ให้ถูกต้อง ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะกตัญญูต่อบริษัท คือเรื่องกตัญญูนี้ เราก็ต้องมาตอบแทนบริษัทที่ให้ความรู้ ให้ตำแหน่ง ให้รายได้แก่เรา โดยการใช้ความรู้ของเราทำงานให้เต็มที่ มีความซื่อสัตย์สุจริต และพยายามเทรนลูกน้องขึ้นมาให้เป็นทีม เหล่านี้อยู่ในข่ายที่เรียกว่าเป็นการตอบแทน”
กตัญญูด้วยการซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน
“ปรัชญา 3 ประโยชน์ของท่านประธานอาวุโสนั้นเป็นสิ่งที่เราพูดถึงกันอยู่เรื่อยๆ คือเราเกิดมาจากประเทศไทย ธุรกิจเรามาจากประเทศไทย ก็ต้องขอบคุณแผ่นดิน เราไปลงทุนประเทศไหนก็แล้วแต่ เราต้องคิดถึงประเทศชาตินั้นๆ ก่อน เพราะเราขยายไปต่างประเทศทั่วโลก และอีกอย่างก็ต้องคิดถึงประชากร โดยเฉพาะเกษตรกร เราต้องไปสร้างอาชีพให้เขามีความมั่นคงขึ้นมา ซึ่งถ้าเราไม่มีบริษัทในประเทศไทย ก็ไม่มีโอกาสที่จะมาช่วย บริษัทเราอยู่ในประเทศไทย เกิดในประเทศไทย ก็ต้องมาช่วยเกษตรกรเหล่านี้ให้มีรายได้ขึ้นมา ถึงจะมีโอกาสที่จะขยายงานไปเรื่อยๆ”
ซื่อสัตย์เท่ากับความกตัญญู
“เรายืนอยู่ในองค์กรของเรา อยู่ในเครือฯ ที่เลี้ยงเราให้เติบโตขึ้นมา ทำให้เรามีรายได้ เราต้องไม่ลืมบุญคุณผู้ที่ทำให้เราเติบโตขึ้นมาทั้งตำแหน่ง ทั้งการงาน คือเราก็ต้องรักองค์กร ถ้าเราไม่รักองค์กร ไม่รักเครือฯ ไม่รักบริษัท ก็เหมือนกับเราไม่รักพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ให้เราเกิดมา เราจึงต้องพยายามดูแล ท่านต้องการอะไร เราก็ต้องพยายามจัดหาให้ เช่นเดียวกันเวลานี้เราเติบโตขึ้นมาในบริษัท เราก็ลืมบุญคุณของบริษัทไม่ได้ ถ้าหัวหน้าให้ความรู้เรา เราก็ต้องรู้บุญคุณเขาเหมือนกัน ถ้าเขาไม่ให้ความรู้เรา เราก็ไม่มีความรู้ เพราะฉะนั้นต้องมีความซื่อสัตย์ ต้องมีสัจจะ เราจะโกงไม่ได้”
ที่มา : วารสารบัวบานฉบับที่ 7/2561