• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

พัฒนา “ยางพารา”สู่ความยั่งยืน เปลี่ยน “วิกฤต” เป็น “โอกาส” รองรับตลาดในอนาคต


โดย ขุนศรี ทองย้อย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์

24 พฤศจิกายน 2557

ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก มีศักยภาพการผลิตมากกว่า 4,000,000  ตันต่อปี หรือกว่าหนึ่งในสามของโลก ประมาณร้อยละ 88 เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ที่เหลือร้อยละ 12 ใช้ในประเทศผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ 

ตลาดส่งออกหลักของไทย คือ จีน รองลงมา มาเลเซีย ญี่ปุ่น ยุโรป เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา

“ยางพารา” ถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย เห็นได้จากรายได้การส่งออกยางพาราในปี 2013 ที่มีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาท (ยางดิบ ผลิตภัณฑ์ยาง ไม้ยาง) มากเป็นอับดับ 1 ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่าล้านคนต่อปี 

ปัจจุบันแม้ราคายางจะไม่สูงเท่าในอดีต แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าต้นปีหน้าแนวโน้มราคายางพาราจะขยับขึ้นตามความต้องการของตลาดโลก เพราะหากดูจากรายงานขององค์กรศึกษาเรื่องยางระหว่างประเทศ หรือ International Rubber Study Group (IRSG) จะพบว่า ความต้องการใช้ยางพาราของโลกในปี 2020 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 14 ล้านตัน จากตัวเลขปี 2556 ประมาณ 11.2 ล้านตัน โดยคาดว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากตลาดเอเชียโดยเฉพาะจีนและอินเดีย เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว  

โอกาสที่กำลังจะมาถึง ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรให้กับอุตสาหกรรมยางพารา

การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของไทยต้องทำอย่างเป็นระบบและครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ประกอบการและเกษตรกร ต้องจับมือกันยกระดับการผลิตยางพาราของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  และพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไปสู่ความยั่งยืน  

การผนึกกำลังระหว่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์การเกษตร จำกัด หนึ่งในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร กับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. เลย จำกัด(สกต.) เพื่อขับเคลื่อน “โครงการ  4  ประสานว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาการผลิตและการตลาดยางก้อนถ้วยคุณภาพของเกษตรกรในจ.เลย อย่างยั่งยืน (Loei  Model)” ที่เริ่มเดินเครื่องไปเมื่อเร็วๆ นี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเป็นการนำเอาจุดแข็งแต่ละองค์กรมาช่วยเกษตรกรซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการยกระดับอุตสาหกรรมยางให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อรองรับโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้  

เพราะโครงการนี้สนับสนุนให้เกษตรกรเรียนรู้ถึงการผลิตน้ำยางคุณภาพตามหลักวิชาการและการผลิตยางก้อนถ้วยคุณภาพซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่ายางพาราอย่างน่าสนใจ

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไมซี.พี.ถึงให้ความสนใจไปพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราในจังหวัดเลย จากการสำรวจข้อมูลของซี.พี.พบว่า จังหวัดเลยเป็นพื้นที่มีศักยภาพในการปลูกยางมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย เพราะมีการที่ปลูกยางถึง 800,000 ไร่  ซี.พี.จึงได้เลือกที่นี้ตั้งโรงงานแปรรูปยางแท่งแห่งแรกขึ้นที่  ต.ปากปวน   อ.วังสะพุง   จ.เลย  บนพื้นที่ 134 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 400 ล้านบาท รับซื้อยางก้อนถ้วยสะอาด คุณภาพดี จากเกษตรกรในโครงการในรัศมี 30 กิโลเมตร สามารถรองรับผลผลิตยางพาราได้ 150,000-200,000 ไร่ หรือประมาณ 40,000-60,000 ตัน/ปี

ภายในโรงงานได้นำเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้  ทำให้โรงงานแห่งนี้สามารถแปรรูปยางก้อนถ้วยเป็นยางแท่งได้ถึง 40,500 ตันต่อปี  หรือประมาณวันละ 135 ตันต่อวัน โรงงานนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทางซี.พี.ได้แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งด้านหน้าโรงงานจัดสร้าง “คลินิกยางพารา”  ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ให้คำแนะนำกับเกษตรกรที่มีปัญหาด้านการปลูกยาง และจัดทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านยางพารา เข้าไปเป็นพี่เลี้ยงในกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา แนะนำการกรีดยางที่ถูกต้อง การวิเคราะห์ดิน เพื่อให้เกษตรใส่ปุ๋ยถูกวิธี ถูกจังหวะ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจ่ายลง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ปลูกยางพาราพันธุ์ใหม่ ที่ได้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ปัจจุบัน

หากเกษตรกรปลูกยางถูกวิธีก็จะได้ยางก้อนถ้วยที่มีคุณภาพ โดยแทบไม่ต้องใช้งบลงทุนอะไรเพิ่ม เช่น การเก็บเกี่ยวใช้ฝาครอบถ้วยก็ราคาถูกมาก และเมื่อผลผลิตดีมีคุณภาพก็สามารถขายได้ราคาสูง แถมยังไม่ต้องนำไปขายในพื้นที่ห่างไกล ประหยัดค่าขนส่ง และไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรก็มีรายได้เพิ่ม ซี.พี.ได้ของคุณภาพดีไปขาย

ปัจจุบันเกษตรผลิตยางได้ 200 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อซี.พี.เข้าไปส่งเสริมตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรได้ถึง 400 กิโลกรัมต่อไร่ นั่นหมายถึงว่าระยะยาว เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน  ในส่วนนี้เป็นประโยชน์ทั้งเกษตรกร  ประโยชน์ประเทศชาติ  ประโยชน์ทั้งบริษัท

การเข้าไปเปลี่ยนแปลงวิถีการปลูกยางของเกษตรกรในจังหวัดเลย ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำให้เกษตรกรเห็นว่า เมื่อเขาเปลี่ยนแปลงแล้วได้ประโยชน์อะไร ดังนั้นซี .พี.จึงเข้าไปช่วยเกษตรกรตั้งแต่ขั้นตอนแรก คือ วิเคราะห์ดิน เลือกพันธุ์ยางที่ดี แนะนำให้ใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง และดูแลสวนยางอย่างถูกหลักวิชาการ 

ยกตัวอย่างชัดๆ การกรีดยาง  ชาวบ้านจะใช้ภาชนะที่ไม่มีฝาปิด อาจจะถ้วยบ้าง กะลาบ้างในการรองน้ำยางที่ได้จากการกรีด ทำให้ เศษสิ่งสกปรกปนเปื้อนเข้าไปในยางก้อนถ้วย หลายสวนเมื่อน้ำยางเต็มถ้วยก็นำไปวางกองรวมไว้ที่พื้นโคนต้นรอการขนย้าย ทำให้ยางสกปรกเมื่อนำยางไปขายก็ไม่ได้ราคา แต่เมื่อเกษตรมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด  

นอกจากนี้ ซีพี ยังพัฒนาการกรีดยางเป็นระบบปิด สามารถกรีดตอนกลางวัน เวลาฝนตกก็กรีดได้ ซึ่งจะช่วยให้ชาวบ้านสะดวกขึ้น นับเป็นนวัตกรรมระบบใหม่ในวงการยางพารา นอกจากจะทำให้ได้น้ำยางคุณภาพ ขายได้ราคาสูงขึ้นแล้วยังได้ปริมาณน้ำยางที่เพิ่มขึ้น การทำสวนยางพาราก็จะมีความยั่งยืน  อุตสาหกรรมยางพาราไทยก็จะมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้ เมื่อโอกาสมาถึงประเทศไทยก็พร้อมที่จะเป็นเบอร์หนึ่งด้านการผลิตยางพาราของโลก

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทข้ามชาติแห่งแรกในจีนจดทะเบียนการค้าหมายเลข 000...

17 พฤษภาคม 2560
26572

การบริหารงานบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในยุค 4.0...

08 พฤศจิกายน 2560
21869

โครงการเลี้ยงไก่ไข่อาหารกลางวันนักเรียน การ “ให้” อย่างมีคุณค่า ทั้งด้...

03 กรกฎาคม 2558
20470

Cage Free Eggs ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของผู้บริโภ...

18 กรกฎาคม 2562
12431

แชร์ข่าวสาร

“Manufacturing will win the day” ผู้ผลิตจะเป็นผู้ชนะ... การสร้างแบรนด์ในตลาดโลก มาตรฐานคือ “คุณค่า” คู่ “คุณภาพ”...
  • คุยกับซีพี
  • ขุนศรี ทองย้อย
  • ยาง
  • ยางพารา
  • เลย
  • CP Talk

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

“มาริษา เจียรวนนท์” บนเส้นทางรังสรรค์ อาหารเพื่อสังคม ผ่านมูลนิธิ CHEF...

23 พฤศจิกายน 2564
3781

สูตรรอด 'CPF' อยู่ร่วมโควิด กระจายความเสี่ยง 47 ประเทศ...

30 สิงหาคม 2564
3526

ทำความรู้จัก “สบขุ่นโมเดล”: CP ร่วมพัฒนา พลิกเขาหัวโล้นให้กลายเป็นผืนป...

13 กรกฎาคม 2564
4294

CP ชูกลยุทธ์ขับเคลื่อน Social Enterprise ผู้นำหญิงนักพัฒนา ก้าวสู่ชุมช...

07 กรกฎาคม 2564
4173

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th