ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เครือเจริญโภคภัณฑ์จะมีอายุครบ 100 ปี หลายคนอาจสงสัยว่า องค์กรขนาดใหญ่ขนาดนี้ ที่มีธุรกิจหลากหลายจากจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช อาหาร ค้าปลีก จนถึงอสังหาริมทรัพย์ ประสบความสำเร็จได้อย่างไรจนถึงวันนี้ หนึ่งในคำตอบนั้นคือ “นวัตกรรม” ซึ่งเครือฯมุ่งมั่นคิดค้นมาตลอดเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ และ “ซีพีแรม” เป็นหนึ่งในความสำเร็จของความพยายามนั้น
แม้จะเป็นซาลาเปาลูกละเพียงแค่ไม่กี่บาท อาหารที่แสนธรรมดาสำหรับคนไทยและไม่อยู่ในสายตาผู้ผลิตอาหารสักเท่าไร แต่สำหรับซีพีแรม บริษัทผลิตอาหารพร้อมรับประทานชั้นนำในเครือเจริญโภคภัณฑ์ไม่คิดเช่นนั้น ซีพีแรมได้ทำการวิจัยอยู่แรมปีหา “นวัตกรรม” ให้กับซาลาเปา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ร้อน นุ่ม อร่อยและสะดวกในการรับประทาน ในที่สุดซีพีแรมก็ได้ค้นพบ ซึ่งไม่เพียงเปลี่ยนวิถีการบริโภคซาลาเปาของคนไทย แต่ยังสร้างความแปลกใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย
ซาลาเปานวัตกรรมที่ว่า เป็นซาลาเปาแช่เย็น (chilled) บรรจุในถุง Vending Pouch เสมือนเป็นหม้อนึ่งใบจิ๋วที่ช่วยอุ่นซาลาเปา และรักษาความนุ่มชุ่มชื่นของแป้งซาลาเปาไว้ ทำให้ซาลาเปาเหมือนนึ่งออกจากหม้อนึ่งใหม่ๆ โดยก่อนรับประทานต้องเข้าไมโครเวฟ บรรจุภัณฑ์ช่วยให้ซาลาเปามีความนุ่ม และสามารถเก็บความร้อนได้นาน เมื่อซาลาเปายังร้อน ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยได้ทุกที่ ทุกเวลา ต่างจากซาลาเปาโดยทั่วไปที่จำหน่ายในท้องตลาด เมื่อซื้อมาแล้ว หากต้องการลิ้มรสความอร่อย ต้องรีบรับประทานทันทีขณะยังร้อน การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
ซาลาเปา เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางด้านนวัตกรรม ที่ซีพีแรมให้ความสำคัญมากว่า 29 ปี บริษัทมองว่า นวัตกรรมมีความสำคัญกับองค์กร ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เพราะไม่เพียงจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดแล้ว แต่ยังสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่มากกว่าความอร่อย
ทีนี้แล้ว นวัตกรรมคืออะไร? ดูเหมือน “นวัตกรรม” กลายเป็นคำพูดติดปากในทุกๆ ธุรกิจในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ที่ต้องอาศัยนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน อย่างไรก็ตาม ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้ ดังนั้น พวกเรา ซีพี-อีนิวส์ จึงเข้าพูดคุยกับผู้รู้ในวงการอุตสาหกรรมอาหารอย่าง วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เพื่อหาความกระจ่าง
“องค์กรที่มีความยั่งยืน คือ องค์กรที่มีการสร้างคุณค่า หรือ Value ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ รวมถึงองค์กรต้องมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืน จึงมีอีกนัยว่า องค์กรแห่งนวัตกรรม” วิเศษ เริ่มเกริ่นกับพวกเรา
เมื่อเจาะลงหารายละเอียด วิเศษ บอกว่า นวัตกรรมคือ ไอเดีย หรือบางคนเรียกว่า creativity บวกกับเทคโนโลยี ถ้าไม่มีเทคโนโลยีก็ไม่สามารถเกิดนวัตกรรมได้ ดังนั้น นวัตกรรมจึงเกิดจากสองอย่างรวมกัน หากคนที่มีไอเดียมากมาย แต่ไม่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ผลลัพธ์นั้นก็เป็นแค่ new product ไม่ใช่นวัตกรรมอย่างเข้าใจกัน
เพื่อความเข้าใจที่ชัดขึ้น วิเศษ ยกตัวอย่างสินค้าซาลาเปาของซีพีแรมที่บวกนวัตกรรมลงไป โจทย์แรกเริ่มของการคิดค้น คือ ทำอย่างไรให้ซาลาเปานุ่ม และร้อนนาน นั่นก็หมายความว่า ซาลาเปาต้องคงความนุ่ม และอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เก็บอุณหภูมิความร้อนได้นาน ดังนั้น ซีพีแรมจึงเริ่มมองหาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยคิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ซาลาเปาต้องคงความนุ่ม เก็บอุณหภูมิความร้อนได้นานให้กับซาลาเปา หลังจากอุ่นจากไมโครเวฟ
“การมีนวัตกรรมจะทำให้ลูกค้าหันมาเรามากกว่าไปมองหาคู่แข่ง อย่างเราเป็นผู้นำทางด้านการผลิตอาหาร นวัตกรรมเราสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภค หรือเรียกว่า ขีดความสามารถทางการแข่งขัน ถ้าเราไม่มีนวัตกรรม ความสามารถทางการแข่งขันเราจะด้อยลงเรื่อยๆ”
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า new product ไม่มีความสำคัญกับธุรกิจ วิเศษ บอกว่า บริษัทยังจำเป็นต้องออกสินค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด ควบคู่ไปกับสร้างสินค้านวัตกรรม เพราะสินค้าทั้งสองช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร อย่างไรก็ตาม สินค้านวัตกรรมเป็นสินค้าที่ลอกเลียนแบบได้ยาก พร้อมกับมีอายุในท้องตลาดนานกว่า ตราบใดที่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่ามาทดแทนการผลิตสินค้านั้น
“ถ้าจะให้องค์กรแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็จะต้องเกิดเซลล์ใหม่ที่ไม่เพียงทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไปเท่านั้น แต่เซลล์ใหม่จะต้องแข็งแรงกว่าเซลล์เก่าด้วย ขีดความสามารถขององค์กรจึงจะสูงขึ้น สิ่งที่เป็นเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าเก่าในทางธุรกิจ เรียกว่า New S-Curve ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องมีนวัตกรรมฝังตัวอยู่ด้วย” วิเศษขยายความให้พวกเราได้รีบรู้
โจทย์สินค้านวัตกรรมของซีพีแรมมาได้จาก 3 ด้าน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาธุรกิจขององค์กร คือ หนึ่ง สะอาด ปลอดภัย (food safety) สอง โภชนาการ ไม่เป็นอาหารขยะ รับประทานเข้าไป จะมีผลดีกับสุขภาพ และสุดท้ายคือ สุนทรียภาพในการบริโภค คือ อร่อย กลิ่นหอม ปรุงแล้วสวย เนื้อสัมผัสดี ไม่เหนียวแข็ง ดังนั้น สินค้านวัตกรรมขององค์กรในอนาคตจะเกิดจากสิ่งเหล่านี้
ปัจจุบัน ซีพีแรมมีอายุกว่า 29 ปี ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจบนปรัชญาที่ว่า “อาหารเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต อาหารที่มีคุณภาพส่งผลให้ชีวิตมีคุณภาพ ซีพีแรมมุ่งมั่นที่จะมอบอาหารที่มีคุณภาพ เพียบพร้อมด้วยความปลอดภัย ให้คุณค่าทางโภชนาการ และสุนทรียภาพในการบริโภค เพื่อโลกของเราให้มีสุขภาพดี สดใส และมีชีวิตชีวา” โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มบริษัท ซีพีแรม จำกัด อาทิ แบรนด์เจด ดราก้อน แบรนด์เลอแปง แบรนด์เดลี่ไทย แบรนด์เดลิกาเซีย แบรนด์ซีพีแรมเคเทอริ่ง และแบรนด์ฟู้ดดี้ดี เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ วิเศษบอกว่า ซีพีแรมจึงให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่า องค์กรที่มีอายุยืนยาวมาจนทุกวันนี้ ล้วนเป็นองค์กรที่มีเทคโนโลยีเป็นของตนเองทั้งสิ้น การได้มาของเทคโนโลยีมีหลายทางด้วยกัน กล่าวคือ จากการซื้อ การร่วมวิจัย และการคิดค้นด้วยตนเอง โดยการคิดค้นด้วยตนเอง บริษัทให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ทั้งหมด ขณะที่การซื้อ ไม่ว่าบริษัทไหนก็สามารถซื้อได้ถ้ามีเงิน ดังนั้นทุกบริษัทสามารถมีได้เหมือนกันหมด
“องค์กรที่ยั่งยืนของโลกจึงมีอาร์แอนด์ดี เพราะอาร์แอนด์ดี ทำให้พวกเขามีเทคโนโลยีเป็นของตนเอง และซีพีแรมก็ให้ความสำคัญนี้เช่นกัน”
ที่ผ่านมา ซีพีแรม จับมือกับองค์กรชั้นนำในต่างประเทศ ลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมในด้าน Robot and Automation ตอบสนองแนวทางการพัฒนาของ CPRAM สู่ Industry 4.0 ในทุกๆ ด้าน อาทิ Smart Office, Smart Factory, Smart Logistics, Smart E-commerce พร้อมด้วย IoT Solution, Cloud Computing & Data Analytics เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมซีพีแรมและโรงงานชลบุรี ถือเป็นศูนย์นวัตกรรมอาหารของเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่บ่มเพาะ “นวัตกร” เป็นแหล่งเรียนรู้และแบ่งปันองค์ความรู้ให้กับสังคม มีการรวบรวมผลงานด้านนวัตกรรมที่ซีพีแรมสร้างสรรค์ขึ้นมา นำเสนอในรูปแบบนิทรรศการและแบบจำลองที่สัมผัสได้ อีกทั้งโรงงานที่ชลบุรีเป็นโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ได้นำองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม ร่วมกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศออกแบบสายการผลิตร่วมกัน จนได้สายการผลิตอาหารแบบอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีประสิทธิภาพสูง มีสุขอนามัยที่ดี ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ยังมี ซีพี ฟู้ดแล็บ เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนา รวมถึงรับวิเคราะห์ทดสอบทางด้านอาหาร ตั้งอยู่ในโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC2) อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย เดิมเป็นสำนักวิจัยและพัฒนาของบริษัท ซีพีแรม จำกัด ปัจจุบัน ซีพี ฟู้ดแล็บ เป็นศูนย์กลางข้อมูลความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนารวมถึงศูนย์กลางการทดสอบ เพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
“ซีพีแรมมุ่งมั่น ขับเคลื่อนองค์กรแห่งนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารในภูมิภาค ภายใต้แนวทางการพัฒนาประเทศ Thailand 4.0” วิเศษกล่าวก่อนที่จะจบสัมภาษณ์ในวันนั้น