ที่ผ่านมาผมยังคงสานสัมพันธ์อันดีกับมิตรสหายที่เคยช่วยเหลือกันมาโดยตลอด และด้วยมิตรภาพนี้บางครั้งก็นำพาโอกาสทางธุรกิจมาด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์ขยายธุรกิจไปยังญี่ปุ่นก็เพราะได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก มร. ออง ปิ่ง หรง (Mr. Pin Yung Ongg) ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน มร.ออง เป็นคุณพ่อของคุณจูดี้ ออง (Ms. Judy Ongg) ซึ่งเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่า มร.ออง จะมีอายุมากกว่าผม 10 กว่าปี แต่เรากลับคุยกันถูกคอและคบหากันเป็นเพื่อน และเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกับท่านประธานมนตรี พี่ชายของผมด้วย มร.ออง พำนักอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นเวลานาน ทุกครั้งที่ผมไปญี่ปุ่นเขาจะช่วยเป็นล่ามให้ มร. ออง มีเพื่อนในญี่ปุ่นมากมาย เครือฯ ส่งออกเนื้อไก่ไปญี่ปุ่นได้ก็ด้วยการแนะนำของ มร. ออง ซึ่งในที่สุดเขายังดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ซีพีเอฟ โตเกียว จำกัด (CPF Tokyo Co., Ltd.) และภายหลังเราได้ทำรายการโทรทัศน์ “Chia Tai Variety Show” ที่จีนร่วมกันดังที่ผมกล่าวถึงไปแล้ว (ในบทที่ 20) การได้รู้จัก มร.ออง ผมต้องขอบคุณ มร. ไช่ เทียน โซ่ว (Mr. Cai Tian Shou) นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเพื่อนเก่าชาวไต้หวันอีกคนหนึ่งที่แนะนำให้เรารู้จักกัน
เพื่อนชาวไต้หวันอีกคนที่ผมไม่มีวันลืมคือ มร. สวี เหว่ย เฟิง (Mr. Hsu Wei Feng) ในยุคทศวรรษ 2490 เขาได้สร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งแรกในไต้หวัน มร. สวี เป็นผู้ชื่นชอบอาหารอร่อยๆ เราเคยตระเวนหาอาหารรสชาติดีในที่ต่างๆ และเขายังแนะนำร้าน Rogairo ร้านอาหารจีนชื่อดังในกรุงโตเกียวให้ผมรู้จัก ซึ่งผมจะไปรับประทานเสมอๆ เมื่อมีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น แต่น่าเสียดายที่ มร. สวี เหว่ยเฟิง เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
ที่สิงคโปร์ ผมก็มีเพื่อนสนิทชื่อ มร. อู๋ ชิง เลี่ยง (Mr. Goh Cheng Liang) ซึ่งเป็นชาวจีนแต้จิ๋วเหมือนกัน เขาเป็นผู้บริหารบริษัท Wuthelam Holding โดยร่วมทุนกับบริษัทนิปปอน เพ้นท์ (Nippon Paint) ดำเนินธุรกิจสีน้ำมันในสิงคโปร์และมาเลเซีย เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งในแวดวงชาวจีนโพ้นทะเลและในจีน จากการสร้างชื่อสียี่ห้อ “นิปปอน เพ้นท์” จนเป็นที่ยอมรับ
เมื่อพูดถึงคนจีนแต้จิ๋ว ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ ท่านได้ร่วมทำธุรกิจกับ มร. หว่อง ฉวนนาม (Mr. Wong Quan Nam) ประธานบริษัท Good Earth ในฮ่องกง เขาทำธุรกิจจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผัก และยาปราบศัตรูพืชเหมือนกับคุณพ่อของผม รวมถึงยังเป็นตัวแทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ที่คุณพ่อผลิตด้วย
เมื่อครั้งที่บริษัทเอสเอชวี (SHV) ประเทศเนเธอร์แลนด์ต้องการนำเข้าถ่านหินจากจีน ก็ติดต่อให้ผมช่วยประสานงาน ผมจึงได้รู้จักและสนิทสนมกับ Mr. Paul Fentener van Vlissingen ประธานเอสเอชวีและครอบครัว ทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้นำร้านค้าส่งระบบสมาชิกคือแม็คโคร (Makro) มาเปิดกิจการที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก หลังจากที่ Mr. Paul Fentener van Vlissingen เสียชีวิตในปีพ.ศ. 2549 ผมก็ยังคงรักษาสัมพันธภาพกับพี่ชายของเขาเป็นอย่างดี เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอดกว่า 20 ปี และได้ร่วมกันขยายกิจการจนก้าวหน้า กระทั่งปีพ.ศ. 2540 เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชีย ผมได้ขายหุ้นของแม็คโครให้บริษัทเอสเอชวี และได้ซื้อแม็คโครกลับมาอีกครั้งในปีพ.ศ. 2556 ซึ่งผู้ที่มาถามผมว่าต้องการจะซื้อแม็คโครกลับหรือไม่ก็คือลูกสาวของพี่ชาย Mr. Paul Fentener van Vlissingen นั่นเอง ความสัมพันธ์อันดีที่ยาวนานเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่พบเห็นได้น้อยมาก
นอกจากนี้ผมยังได้ติดต่อกับครอบครัว Rockefeller ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานานอีกด้วย David Rockefeller ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 3 ของครอบครัวเป็นคนแนะนำบริษัทเลี้ยงไก่เนื้อรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาให้ผมรู้จัก ก่อนหน้านี้ผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมเขาทุกปี แต่ปัจจุบันเขามีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ผมจึงไม่ค่อยได้พบเขาบ่อยนัก
ผมยังสนิทสนมกับครอบครัวอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช อีกด้วย ตอนที่ผมร่วมกับบริษัทสหรัฐอเมริกาทำธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทย ท่านก็เดินทางมาร่วมพิธีเปิด ปัจจุบันท่านมีอายุ 90 กว่าปีแล้ว ผมจะไปเยี่ยมท่านทุกๆ 1-2 ปี และในปีที่ผ่านมาผมก็ได้มีโอกาสเข้าพบท่านและภริยา แม้ว่าจะนั่งบนรถเข็นหลังประสบอุบัติเหตุหกล้มในบ้านพัก แต่ท่านยังพูดคุยด้วยเป็นอย่างดี
ที่ประเทศจีน ผมยังคบหานักธุรกิจที่มีอายุน้อยกว่า ผมนับถือหม่า อวิ๋น (Ma Yun) หรือแจ็ค หม่า (Mr. Jack Ma) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา (Alibaba Group) ธุรกิจ e-Commerce ให้เป็นอาจารย์ในด้านการบริหารอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุน้อยกว่าผมหลายปี แต่ก็เป็นผู้มีความสามารถโดดเด่นหลายด้านที่ควรศึกษาเป็นแบบอย่าง และปัจจุบันนี้ช่องว่างระหว่างวัยไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันอีกแล้ว
แปลและเรียบเรียงโดย :
- คุณภรณี จิรวงศานนท์ สำนักประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์
- มร. หวง เหวยเหว่ย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท ซีที อินฟราสตรักเจอร์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด
ที่มา : http://www.nikkei.com/article/DGXKZO05370380Y6A720C1BC8001/