• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

บทที่ 25 : ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย


โดย Nikkei My Personal History

14 กันยายน 2559

ปีพ.ศ. 2540 ปีที่ต้องจดจำ...เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 สหราชอาณาจักรส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงสู่ประเทศจีน ผมตอบรับคำเชิญให้เป็นที่ปรึกษาของคณะทำงานบริหารเกาะฮ่องกง และเข้าร่วมทำงานเพื่อเตรียมการส่งมอบอำนาจการปกครองคืนให้เกาะฮ่องกง เช้าตรู่ของวันที่ 1 กรกฎาคม ผมเข้าร่วมพิธีส่งมอบคืนเกาะฮ่องกง ซึ่งมีประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน และผู้นำจีนท่านอื่นๆ เข้าร่วมพิธีด้วย 

ในวันต่อมา คือวันที่ 2 กรกฎาคม ผมเดินทางจากฮ่องกงกลับกรุงเทพฯ พอลงจากเครื่องบินไม่นานก็รู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว

เรื่องท้าทายใหญ่ที่สุดในชีวิตผม 

ประเทศไทยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่มาเป็นเวลานาน โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การค้า การลงทุน เงินกู้ และธุรกรรมทางการเงินระหว่างไทยกับต่างประเทศจึงไม่เคยได้รับผลกระทบด้านความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน 

บริษัทไทยสามารถกู้เงินจากต่างประเทศได้โดยง่าย จึงขยายกิจการกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ก็เช่นเดียวกัน 

อย่างไรก็ตาม ในปีพ.ศ. 2539 บัญชีเดินสะพัดของไทยเริ่มขาดดุลหนัก หลายคนเห็นว่าเงินบาทต่อดอลลาร์มีมูลค่าเกินจริง การขาดดุลอย่างหนักนี้ตกเป็นเป้าของนักฉวยโอกาส ทำการโจมตีค่าเงิน โดยการถล่มขายเงินบาท รัฐบาลไทยพยายามรักษาค่าเงินโดยการเข้าแทรกแซงซื้อเงินบาทในตลาด แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

ในวันที่ 2 กรกฎาคม รัฐบาลยกเลิกระบบค่าเงินคงที่ และประกาศใช้ระบบแลกเปลี่ยนลอยตัวเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ก็ลดฮวบลง 

ภายในครึ่งปีเงินตราสกุลท้องถิ่นในประเทศแถบเอเชียอื่นๆ ก็ถูกนักลงทุนเทขาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณว่าวิกฤตการเงินเอเชียได้มาถึงแล้ว 

เดือนมกราคมพ.ศ. 2541 ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงไปอยู่ที่ 50 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ หรือเท่ากับเงินบาทมีมูลค่าลดลง 1 เท่า นั่นหมายความว่าเงินกู้จากต่างประเทศเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้ว ผู้กู้จะมีภาระต้องหาเงินมาชำระหนี้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณทันที

ธนาคารต่างประเทศเกรงว่าจะไม่ได้รับชำระเงินกู้คืนจากลูกหนี้แถบภูมิภาคเอเชีย จึงไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้ประเทศในแถบนี้  ไม่เพียงเท่านั้น ธนาคารต่างประเทศยังขอให้เครือเจริญ-โภคภัณฑ์คืนเงินกู้ก่อนกำหนดเวลาชำระอีกด้วย สัญญาเงินกู้ระยะเวลา 5 ปี กลายเป็นโมฆะ มีเพียงไม่กี่ธนาคารเท่านั้นเช่น ธนาคาร HSBC ของอังกฤษ ที่ยอมยืดเวลาในการชำระคืนเงินกู้ให้แก่เครือฯ ตอนนั้นกิจการใหญ่ๆ ในทวีปเอเชียที่ขาดเงินทุนค่อยๆ ล้มละลายและสูญหายไปในที่สุด

ผมตั้งใจจะรักษาเครือเจริญโภคภัณฑ์เอาไว้ จึงตัดสินใจขายหุ้นของบริษัทลูกที่อยู่ในเครือฯ ทันที ช่วงนั้นโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กำลังเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ผมจำต้องขายหุ้นจำนวน 75% ของโลตัสฯ ให้แก่บริษัทเทสโก้ของอังกฤษ ส่วนหุ้นของแม็คโคร (Makro) ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งระบบสมาชิกได้ขายคืนให้บริษัท SHV ของเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่เมืองจีนได้ขายบริษัทมอเตอร์ไซค์และหุ้นในอีกหลายบริษัท

ภายใต้วิกฤตครั้งนั้น เครือเจริญ-โภคภัณฑ์มุ่งเน้นการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจโทรคมนาคม และเมื่อปริมาณการผลิตอาหารเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการส่งออกไปทั่วโลกที่ขยายตัวมากขึ้น จึงช่วยให้เครือฯ ได้รับเงินตราต่างประเทศกลับเข้ามาในมือ ในส่วนของธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่เครือฯ บริหารอยู่นั้น เมื่อมีการขยายธุรกิจในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ออกไปแทนที่จะเปิดร้านเอง ก็ทำให้ธุรกิจค้าปลีกของเครือฯ ก้าวหน้าไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนธุรกิจโทรคมนาคมมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ธุรกิจ e-Money, e-Commerce และเคเบิลทีวี

ถือได้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนั้นเป็นปัญหายิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมต้องเผชิญตั้งแต่เข้ามารับช่วงการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ แต่เป็นเพราะเราสามารถตั้งรับได้ทัน ไม่เพียงแต่จะไม่ล้มละลาย ตรงกันข้ามกลับสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของเครือฯ มากขึ้น ดังเช่นความหมายของคำว่า “วิกฤต” ในภาษาจีนที่มีความลึกซึ้งมาก โดยตัวอักษรจีนคำนี้ประกอบด้วยคำที่แปลว่า  “ความเสี่ยง” และคำที่แปลว่า “โอกาส” ความหมายที่แฝงอยู่จึงมีทั้งความเสี่ยง แต่ก็ซ่อนไว้ซึ่งโอกาส

ต้นศตวรรษที่ 21 เครือเจริญโภคภัณฑ์ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจมาได้ แล้วกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง ในปีพ.ศ. 2556 เครือฯ ได้ซื้อหุ้นแม็คโครคืนจากบริษัท SHV ในส่วนของโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ที่เราเคยเป็นผู้บุกเบิกมาตั้งแต่ต้น ผมก็ตั้งใจจะซื้อกิจการกลับคืนมาจากบริษัทเทสโก้ แต่เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายเทสโก้ด้วย

 

แปลและเรียบเรียงโดย :

- คุณภรณี จิรวงศานนท์ สำนักประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์

- มร. หวง เหวยเหว่ย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท ซีที อินฟราสตรักเจอร์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด

ที่มา : http://www.nikkei.com/article/DGXKZO05222040V20C16A7BC8001/

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทข้ามชาติแห่งแรกในจีนจดทะเบียนการค้าหมายเลข 000...

17 พฤษภาคม 2560
24710

การบริหารงานบุคคลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในยุค 4.0...

08 พฤศจิกายน 2560
18718

โครงการเลี้ยงไก่ไข่อาหารกลางวันนักเรียน การ “ให้” อย่างมีคุณค่า ทั้งด้...

03 กรกฎาคม 2558
18670

สร้างประเทศไทย 4.0 ให้เป็นจริงได้อย่างไร โดย ท่านประธานฯธนินท์ เจียรวน...

21 กุมภาพันธ์ 2560
9260

แชร์ข่าวสาร

บทที่ 24 : เข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคม...เศรษฐกิจไทยขาขึ้น... บทที่ 26 : สามประสาน ‘ซีพี’ ‘อิโตชู’ ‘ซิติก’ ผนึกความแข็งแกร...
  • CP Group
  • เครือเจริญโภคภัณฑ์
  • นิกเคอิ
  • Nikkei
  • My Personal History
  • ธนินท์ เจียรวนนท์
  • Lotus
  • โลตัส

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

เครือซีพี มุ่งเข็มทิศสู่เป้าหมายองค์กรแห่งความยั่งยืน ตามแนวทางสหประชา...

14 มกราคม 2564
334

“สิ่งที่ถูกต้อง ต่อตนเองและต่อประเทศชาติ เราต้องทำ”….เรื่องเล่าจาก “ภู...

14 มกราคม 2564
68

“The Pride of Nation” วิสัยทัศน์ผู้บริหารกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่...

06 มกราคม 2564
138

ซีพีแรม มองภาพใหญ่ “ปัญหาอาหารที่ถูกทิ้ง” กระทบเศรษฐกิจ-สังคมโลก...

15 ธันวาคม 2563
1185

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th