คุณพ่อของผมชอบของใหม่ๆ หลังจากที่ท่านเปิด “ร้านเจียไต๋จึง” แล้ว ท่านได้เริ่มใช้ตราเรือบิน (เครื่องบิน) แม้ว่าเมล็ดพันธุ์และเครื่องบินจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเลย แต่คุณพ่อบอกว่า “เรือบิน (เครื่องบิน) เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยี และแสดงถึงความทันสมัย” จึงได้ประทับตราเรือบินลงบนบรรจุภัณฑ์ของทางร้าน
สมัยนั้นร้านเจียไต๋ขายเมล็ดพันธุ์ผักกาดขาว ผักกาดเขียว หัวผักกาด โดยบรรจุใส่ถุงเล็กๆ ซึ่งเป็นถุงกระดาษที่พิมพ์สี แม้ว่าจะมีคนคิดว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม เพราะเป็นสินค้าที่ขายให้แค่เกษตรกร แต่คุณพ่อท่านไม่คิดเช่นนั้น
นอกจากนี้บนถุงกระดาษยังได้พิมพ์วันหมดอายุของเมล็ดพันธุ์ไว้อีกด้วย ถ้าหากซื้อไปแล้ว สินค้าหมดอายุ ลูกค้าสามารถนำมาเปลี่ยนใหม่ได้ วิธีการขายสินค้าแบบนี้ เราจะไม่ได้พบเห็นมากนักในสมัยนั้น คุณพ่อพูดกับผมเสมอว่า “งานปลูกผักเป็นงานที่หนัก ชาวสวนต้องรดน้ำทุกวัน ถ้าเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกลงไปไม่ขึ้น ชาวสวนก็ขาดทุนย่อยยับ ดังนั้นเราต้องไม่ทำให้ลูกค้าขาดทุน”
ความใฝ่วิเคราะห์
แม้ว่าคุณพ่อจะไม่ได้มีการศึกษาสูง แต่กลับมีความสามารถในการสังเกตแบบนักวิทยาศาสตร์ ท่านพบว่าคนกรุงเทพฯ ในสมัยก่อนนิยมเลี้ยงไก่บนชั้นดาดฟ้าของบ้าน แต่ไก่ที่เลี้ยงจะไม่ค่อยออกไข่ คุณพ่อสังเกตว่าไก่พวกนั้นกินแต่หนอนกับหญ้า
คุณพ่อคิดว่าไก่พวกนั้นอาจจะขาดสารอาหาร จึงนำปลาป่นมาผสมกับรำข้าว ทำเป็นอาหารให้ไก่กิน นอกจากนี้ยังให้ไก่กินผักและเปลือกหอยบดเพิ่ม คุณพ่อไม่มีความรู้เรื่องโภชนาการและสารอาหาร ท่านไม่รู้จักโปรตีน ไม่รู้จักแคลเซียม แต่เพราะท่านเป็นคนช่างสังเกต จึงทดลองทำอาหารสัตว์ ปรากฏว่าไก่ที่เคยไม่ออกไข่ หลังจากที่กินอาหารที่คุณพ่อผสมก็เริ่มออกไข่ทุกวัน
คุณพ่อของผมยังชอบพัฒนาและปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ผัก ท่านมีสวนผักที่เมืองแต้จิ๋วและเมืองไทย โดยท่านจะเลือกเฉพาะพันธุ์ผักที่ดี เพื่อมาขยายพันธุ์ต่อ จะเห็นได้ว่าความรู้ที่คุณพ่อมี ไม่ได้มาจากการศึกษาในโรงเรียนเกษตรเลย แต่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์และการสังเกตเป็นหลัก
ผมรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีบุคลิกเหมือนคุณพ่อ ตรงที่เป็นคนชอบศึกษาสิ่งแปลกใหม่และ มีความสามารถในการสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว คุณพ่อของผมให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและให้ความสำคัญกับลูกค้า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่กิจการค้าเมล็ดพันธุ์ผักเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อกิจการเติบโตขึ้น คุณพ่อจึงให้ท่านชนม์เจริญ ซึ่งเป็นคุณอาคนที่ 3 ของผมมาช่วยกิจการที่ร้าน
คุณภาพสำคัญที่สุด
คุณพ่อให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดพันธุ์มากที่สุด ท่านจะรับเฉพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีมาขายเท่านั้น เมล็ดพันธุ์ที่นำมาขายมาจากหลายๆ แหล่ง นอกจากนำมาจากเมืองแต้จิ๋วแล้ว ยังมาจากอีกหลายที่ในประเทศจีน หรือบางพันธุ์มาจากประเทศญี่ปุ่น สมัยนั้นคุณพ่อเริ่มนำเมล็ดพันธุ์จากญี่ปุ่นเข้ามาขายแล้ว
ในปีพ.ศ. 2483 คุณพ่อเคยเป็นผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ของบริษัท Takii&Co. ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโตของญี่ปุ่น ขณะที่เครือเจริญ-โภคภัณฑ์กับ Takii ยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าเรื่อยมาจนถึงวันนี้ พร้อมทั้งได้มีการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ผักและผลไม้ร่วมกัน นอกจากนี้เมื่อปีพ.ศ. 2558 ที่ผ่านก็มาถือเป็นปีแห่งการฉลองครอบรอบ 75 ปี ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง 2 บริษัทอีกด้วย
ท่านคงสงสัยว่าคนที่พูดภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่ได้อย่างคุณพ่อของผมจะทำการค้ากับต่างประเทศได้อย่างไร คำตอบก็คือคุณพ่อได้จ้าง มร. อเล็กซานเดอร์ แคมป์เบลล์ (Mr. Alexander Campbell) ซึ่งเป็นคนอังกฤษที่พูดภาษาไทยได้ ด้วยเงินเดือนที่สูงมากให้มาทำงานติดต่อต่างประเทศ เช่น งานด้านสัญญา เป็นต้น
การที่คุณพ่อจ้าง มร. แคมป์เบลล์ในตำแหน่งที่สำคัญนั้น คุณพ่อของผมได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เราจะดูความสามารถของบุคคลเป็นสำคัญโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ เจียไต๋ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักเล็กๆ มีพนักงานเพียงไม่กี่คน สามารถติดต่อค้าขายกับบริษัทต่างชาติได้ มร. แคมป์เบลล์ทำงานกับเจียไต๋จนถึงยุคทศวรรษ 2520 ขณะที่มีอายุถึง 80 กว่าปี
แปลและเรียบเรียงโดย :
- คุณภรณี จิรวงศานนท์ สำนักประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์
- มร. หวง เหวยเหว่ย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท ซีที อินฟราสตรักเจอร์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด