ในการเสวนาเฉลิมฉลองครบรอบ40ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูตจีน-ไทย ในประเด็น "จีน-ไทย พี่น้องกัน: เบื้องหลังมิตรภาพและความสัมพันธ์" ที่ห้องประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย เอกอัครราชทูต และอดีต เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ดร.สารสิน วีรผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร และ คุณโจ ฮอร์น พัธโนทัย ผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำจีนถึง3รุ่น โดยมี รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ดำเนินการเสวนา
โดยสองท่านทูตจีนคือ ฯพณฯ นิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ฯ และฯพณฯ ก่วนมู่ อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ต่างกล่าวย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีนที่มีมายาวนานนับร้อยปีก่อนการสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเมื่อ40ปี ที่ผ่านมา และขอให้เชื่อมั่นความจริงใจที่มีต่อกัน
ฯพณฯ นิ่ง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตจีนคนปัจจุบัน กล่าวปาฐกถาก่อนการเสวนา ถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ทีมีมายาวนาน ตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่เริ่มไปมาหาสู่กัน และจีนได้ส่งช่างมาสอนทำเครื่องปั้นดินเผาที่สุ โขทัยจนเกิดเป็นเครื่องสังคโลกในเมืองไทย การนำเทคโนโลยี่การเกษตร และปฏิทิน เข้ามาเมืองไทยในสมัยกรุงอยุธยา การสร้างครอบครัวร่วมกันระหว่างชาวจีนและ ชาวไทย จนถึงปัจจุบันที่มีนักท่องท่องเที่ยวชาว จีนกว่า 4 ล้านคน เข้ามาท่องเที่ยวไทย มีนักศึกษาจีนมาศึกษาในเมืองไทย 30,000คน เป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างไทย-จีนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-จีน ในโครงการรถไฟความเร็วสูง ว่าจีนพร้อมจะปรับเปลี่ยนรูปแบบความร่วมมือระหว่างกันโดยไม่บีบบังคับเพื่อให้ไทยลดแรงกด ดัน และเชื่อมั่นว่าจีนต้องการร่วมมือ เพื่อ พัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคกับไทยอย่างจริงใจ และพร้อมให้มีฝ่ายตรวจสอบการทำงานเพื่อพิสูจน์ว่าต้นทุนการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน ที่เสนอมานั้น ต่ำที่สุดในโลก
ขณะที่ ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และอดีตเอกอัครราชทูตไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน กล่าวว่า จากการร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยชุดแรกที่ไปทำ งานที่กรุงปักกิ่งนานถึง3ปีภายหลังจากการ สถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีนอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2518 ได้กล่าวว่าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากของจีนในช่วงระยะ 3 ปี ที่ได้ไประจำที่ปักกิ่ง ซึ่งมีผลมาจากเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา และการปฏิวัติวัฒนธรรมในจีน แต่หลักการ สำคัญ ที่ทำให้ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ กันได้แม้จะมีระบอบการปกครองและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน คือสันติสุข และสันติภาพโดยเฉพาะความต่อเนื่อง ของความสัมพันธ์ นำโดยสถาบันกษัตริย์ ของไทยรวมถึง การมีผู้นำประเทศที่ชาญฉลาด และประชาชนของทั้ทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์กันไม่ว่าจะเป็นแบบปัจเจกบุคคล หรือด้านธุรกิจที่ก่อเกิดประโยชน์ต่อกัน ล้วนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้มีการส่งเสริมการศึกษาทางวิชาการกับจีนให้มากขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจต่อกันให้มากขึ้น
คุณโจ ฮอร์น พัธโนทัย บุตรชายของคุณสิรินทร์ พัธโนทัย ผู้ได้ชื่อเป็นบุตรบุญธรรมของอดีตประธานาธิบดี โจว เอนไหล ได้เล่าถึงความเป็นมาครั้งที่บรรพบุรุษ คือคุณสังข์ พัธโนทัย ที่ปรึกษาจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ส่งบุตรชาายและบุตรสาวไปอยู่ที่เมืองจีนนานถึง 13 ปี ด้วยเหตุผลทางการเมืองด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งต่อมากลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ปัจเจกบุคคลคือครอบครัวกับอดีตผู้นำจีนไปด้วย และยังชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ส่วนบุคคลที่อยู่ นอกระบบการเมืองยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยให้การประสานงานในด้านการเมืองง่ายขึ้น
ด้านอดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ฯพณฯ ก่วนมู่ ซึ่งคลุกคลีกับชาวไทยมานาน จนสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้อย่างคล่อง แคล่ว ได้กล่าวถึงภาพความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในอดีตหลายรัฐบาลที่มีการช่วย เหลือ เกื้อกูลกันมา เช่น การช่วยจัดหาน้ำมันสมัยที่ไทยขาดแคลนยุครัฐบาลพลเอกชาติชายโดยท่านได้กล่าวยืนยันว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับไทยอยู่บนพื้นฐานความจริงใจที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน และยังรวมไปถึงโครงการในอนาคต อย่างโครงการรถไฟไทย-จีนที่จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าขึ้น อีกระดับเพื่อประโยชน์ในรุ่นลูกหลานต่อไป