• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

อาหารไมโครเวฟ..อีกทางเลือกผู้บริโภค


02 กรกฎาคม 2558

“ไมโครเวฟ” ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เกือบทุกครัวเรือนทั่วโลก เพราะสร้างความสะดวกสบายให้กับทุกไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ในปัจจุบันที่เร่งรีบทำทุกอย่างแข่งกับเวลาไมโครเวฟจึงเข้ามาเป็นทางเลือกที่จะช่วยลดระยะเวลาในการปรุงอาหารจานหลัก สู่อาหารจานด่วน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไมโครเวฟ ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าอุปกรณ์สนับสนุนการหุงต้มชนิดนี้ต่อคุณค่าทางอาหารที่ผ่านการอุ่นหรือปรุงด้วยเครื่องนี้ รวมทั้งความปลอดภัยต่อผู้ใช้ เรื่องมีนี้มีคำตอบ

การใช้ไมโครเวฟในการอุ่นหรือปรุงอาหารปลอดภัยหรือไม่?

ความคิดที่คนทั่วไปถูกฝังหัวมาเกี่ยวกับไมโครเวฟ คือ การแผ่ “รังสี” ของเจ้าเครื่องนี้ที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ หากยืนอยู่ใกล้ๆระหว่างที่กำลังอุ่นหรือปรุงอาหาร บางคนถึงกับคิดไปถึงปรมาณูที่เคยทำลายล้างชีวิตผู้คนในอดีต ยิ่งประกอบกับการทำงานของเครื่องที่มีแสงสว่าง มีถาดหมุนได้ เพียงกดปุ่มเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่นาทีอาหารที่นำเข้าไปก็ร้อนได้ ทั้งที่มองไม่เห็นแหล่งของความร้อน ต่างกับการใช้เตาถ่านหรือเตาแก๊ส ที่สามารถเห็นเปลวไฟและถ่านไม้แดงๆ ยิ่งทำให้รู้สึกกังวลมากกับแสงไฟสีเหลืองๆ ที่แม้แต่ตัวตู้อบยังมีความร้อนกระจายออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความจริง ไมโครเวฟ คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่มีย่านความถี่อยู่ระหว่างคลื่นวิทยุและอินฟราเรด (Infrared) ซึ่งมีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ระบุว่าคลื่นไมโครเวฟไม่มีอันตราย เพราะกลไกการทำงานของไมโครเวฟเป็นการให้ความร้อนแก่อาหารในระดับที่คนรับประทานได้ เหมือนการให้ความร้อนในการทำอาหารประเภทต้ม ผัด แกง ทอด ด้วยเตาถ่าน แก๊สหุงต้ม หรือเตาไฟฟ้า

ที่สำคัญคลื่นไมโครเวฟไม่ได้เหนี่ยวนำให้เกิดรังสีตกค้างในอาหาร เพราะคลื่นเพียงเป็นตัวทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารเกิดการสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นความร้อนที่ทำให้อาหารสุกได้ เมื่อคลื่นให้พลังงานแก่น้ำแล้วก็จะสลายตัวไป ไม่ได้คงอยู่ในอาหาร จึงไม่เกิดอันตรายใดๆ ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการตกค้างของคลื่น

คลื่นไมโครเวฟมีผลต่อคุณค่าทางอาหารหรือไม่?

เรื่องคุณค่าทางอาหารนั้นไม่ว่าจะเป็นการให้ความร้อนด้วยวิธีใด แน่นอนย่อมทำให้คุณค่าลดลงไม่เท่ากับอาหารสด ผักสดและผลไม้สดๆ เมื่อไมโครเวฟเป็นวิธีหนึ่งของการให้ความร้อนย่อมทำให้คุณค่าของอาหารลดลงเช่นเดียวกับการให้ความร้อนในรูปแบบอื่นๆ แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับอาหารที่ปรุงสุกใหม่ พบว่าอาหารที่อุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟจะยังคงให้คุณค่าเทียบเท่ากันหากการจัดเก็บอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม ที่สำคัญไมโครเวฟสามารถคงคุณค่าทางอาหารไว้ได้ดีกว่าการให้ความร้อนวิธีอื่น เพราะไมโครเวฟใช้เวลาในการให้ความร้อนที่น้อยกว่านั่นเอง

นอกจากนี้ในหมู่นักวิจัยอาหาร เลือกที่จะใช้ไมโครเวฟในงานวิจัยเพื่อให้ผนังเซลล์ของพืชผักฉีกขาด ทำให้ง่ายต่อการนำมาทดลอง นอกจากนี้ ยังถือว่าไมโครเวฟเป็นประโยชน์ในแง่ของการดึงเอาสารสำคัญบางอย่างออกมาจากพืชผัก โดยในห้องทดลองพบว่า การใช้ไมโครเวฟอุ่นพืชผักนั้น ผลปรากฏว่ามีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผนังเซลล์ของผักอ่อนแอลงทำให้สารดังกล่าวถูกปลดปล่อยออกมา ส่วนในผักต้มแช่แข็งที่นำมาอุ่นอีกครั้งก็ทำให้เซลลูโลสซึ่งเป็นเส้นใยสะสมไว้ในพืชแต่ไม่พบในเซลล์สัตว์ ไม่ละลายน้ำและร่างกายของมนุษย์ไม่มีเอนไซม์ที่จะสามารถย่อยสลายได้ แต่ไมโครเวฟจะช่วยให้เซลลูโลสถูกปลดปล่อยออกมาได้เช่นกัน

ใช้ไมโครเวฟอย่างไรให้ปลอดภัยสูงสุด?

เครื่องไมโครเวฟที่ผลิตออกมานั้น มีมาตรฐานความปลอดภัย และระบบเป็นออโต้เซฟตี้ (Auto Safety) สังเกตง่ายๆคือเวลาที่เปิดฝาเครื่อง ไม่ว่าจะตั้งค่าให้ไมโครเวฟทำงานอย่างไรก็ตาม เครื่องก็จะไม่ทำงานจนกว่าจะปิดฝาเครื่อง แหล่งกำเนิดคลื่นจึงจะปล่อยคลื่นออกมา นอกจากนี้จะเห็นว่าที่ฝาเครื่องจะมีแถบฟิล์มเคลือบปิดอยู่ ฟิล์มนี้มีลักษณะเป็นช่องเล็กๆ ที่ขนาดเล็กกว่าความยามของคลื่น ซึ่งเป็นปราการป้องกันคลื่นไม่ให้รั่วไหลหรือทะลุออกมาสู่ภายนอกได้

อย่างไรก็ตาม ในการใช้ไมโครเวฟมีข้อพึงปฏิบัติ คือ เลือกใช้ภาชนะประเภท แก้วทนไฟ เซรามิค กระดาษ ไม้ พลาสติกทนความร้อน (โพลิโพรพิลีน หรือ Polypropylene-PP) รวมถึงชามกระเบื้องขาวที่ไม่มีลวดลายเนื่องจากสีที่ใช้เขียนลวดลายส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของโลหะหนักประเภทตะกั่ว หากสีไม่ทนความร้อนก็อาจมีการปนเปื้อนออกมากับอาหารได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ชามกระเบื้องที่เป็นสีเพราะสีที่ใช้อาจไม่ทนความร้อน และควรสังเกตที่บรรจุภัณฑ์ที่ต้องระบุว่าเป็นภาชนะที่ใช้กับเครื่องไมโครเวฟได้ (Microwave-safe หรือ Microwavable) ที่สำคัญไม่ควรใช้โลหะ หรืออลูมิเนียม เข้าไปในเครื่องเพราะอาจเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้

ในการอุ่นอาหารต้องไม่ปิดฝาภาชนะจนมิดชิด ต้องเปิดฝาหรือเจาะรูพลาสติกปิดภาชนะ สำหรับให้ไอน้ำพุ่งออก ส่วนการต้มน้ำร้อนในไมโครเวฟ อย่างที่หลายคนชอบใช้เพราะสะดวกและใช้เวลาไม่นานนั้น ต้องระวังความร้อนที่มากเกินไป โดยเฉพาะการชงกาแฟ ห้ามใส่ผงกาแฟลงไปทันทีหลังจากน้ำเดือด เพราะจะทำให้เกิดการปะทุของฟองอากาศหรือน้ำที่เดือดจัดอย่างรวดเร็วจนอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ ขณะที่เครื่องทำงานอยู่ควรยืนห่างจากเครื่องประมาณ 50 เซนติเมตร มิใช่เพื่อป้องกันคลื่นรั่วไหล แต่ป้องกันการจ้องมองการทำงานของถาดรองที่หมุนตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เวียนหัวได้

ข้อควรระวังอีกประการหนึ่ง คือ ผู้ใช้ควรหมั่นสำรวจอุปกรณ์หากภายในเครื่องไมโครเวฟซึ่งเป็นเหล็ก มีลักษณะผุพังหรือเป็นสนิม หรือยางที่บุบริเวณฝาเครื่องเกิดเสื่อมสภาพ แนะนำให้เลิกใช้เพราะอาจมีการรั่วไหลของคลื่นได้

ทั้งหมดนี้คงช่วยคลายความสงสัยและความกังวลให้กับผู้ใช้ไมโครเวฟว่า สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยเพื่อความสะดวกสบายของทุกคน

โดย ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข่าวยอดนิยม

ประโยชน์ของข้าวแดง หรือ ข้าวซ้อมมือ...

13 ตุลาคม 2558
37297

อาหารจานด่วน-อาหารขยะ ผลเสียต่อสุขภาพ...

22 กรกฎาคม 2558
34261

เอ็มจี เติบโตต่อเนื่อง ทุ่มงบลงทุนกว่าหมื่นล้าน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห...

08 ธันวาคม 2560
25486

ซีพี-เมจิ ตอกย้ำภาพเบอร์ 1 ตลาดนมพาสเจอร์ไรซ์ พร้อมยกระดับตลาดโยเกิร์ต...

03 กรกฎาคม 2558
18255

แชร์ข่าวสาร

เมนูไข่ไก่ไม่ต้องกลัวคอเลสเตอรอล... ซีพี-เมจิ ตอกย้ำภาพเบอร์ 1 ตลาดนมพาสเจอร์ไรซ์ พร้อมยกระดับตล...
  • Enter เพื่อเว้นช่องคำค้นหา 1 คำค้นหา / กรุณาลบคำอธิบายนี้ถ้าท่านเข้าใจแล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

เวิลด์แบงก์เตือนหนี้สูงฉุดแผนฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก...

29 ธันวาคม 2564
12608

บริโภค-ลงทุนเอกชนทยอยฟื้นตัว “สศค.” เผยหนุน ศก.ภูมิภาคพ.ย.ปรับดีขึ้น...

29 ธันวาคม 2564
12811

นายกฯ พอใจศักยภาพส่งออกสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่อง เร่งพัฒ...

28 ธันวาคม 2564
11299

ครม.ทราบมติ คกก.นโยบายการเงินรัฐ ขยับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกิ...

28 ธันวาคม 2564
11372

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th