• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย ร่วมกับ ซีพี ออลล์ จัด


24 กุมภาพันธ์ 2558

สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย จัดงานแถลงข่าวอัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2558 "ส่องเทรนด์เศรษฐกิจ-ธุรกิจค้าปลีกปี 2558 ในยุคดิจิตอล" โดยภายในงานพบกับ "ภาพรวมเศรษฐกิจไทย-AEC และปี 2558" โดย รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) และ "ทิศทางธุรกิจค้าปลีกไทยปี 2558" โดยนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ณ ห้อง 1102 ชั้น 11 อาคารซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม

รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ต้องโตไม่ต่ำกว่า  5% โดยไตรมาสแรกของปี 2015 ต้องโตไม่ต่ำกว่า 4%  ทั้งนี้การวิเคราะห์  GDP ต้องดูจากองค์ประกอบของ GDP ด้วย นั่นคือ C+I+G+(X-M) C คือ Domestic Consumption , I คือการลงทุนของภาคเอกชน  ,G คือ การใช้จ่ายของภาครัฐ , X คือการส่งออก  และ M คือการนำเข้า จากข้อมูลของสภาพัฒน์  Domestic Consumption ปีที่แล้วที่โต 0.7% ปีนี้ จะโตขึ้น 3.4%  หรือโตขึ้นถึง 5 เท่า ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกก็จะโตขึ้นเช่นกัน ในด้านของการลงทุนของภาคเอกชนจะโตขึ้น 6%  จากปีที่แล้วที่ติดลบ 2.8%  การส่งออกปีนี้จะโต 3.5% จากปีที่แล้ว ติดลบ 0.3%  ส่วนการนำเข้าปีนี้โต 1.8% ในขณะที่ปีที่แล้วติดลบถึง  8.5% ดังนั้นจากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าพระเอกของ GDP  ปีนี้คือการลงทุนของภาคเอกชน

“ในปีนี้ต่างประเทศจะหันมาลงทุนที่ไทยมากขึ้น เนื่องจากประเทศจีนที่ไม่มุ่งการผลิตเพื่อส่งออก และประกาศจากการโรงงานโลกเป็นตลาดโลก ทำให้ต่างชาติย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก และไม่เพียงเท่านั้น จีนเองยังไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ที่สำคัญประเทศไทยยังรายล้อมไปด้วย CLMV และการคมนาคมขนส่งทางบกก็เชื่อมกับมาเลเซียและสิงคโปร์  ต่างประเทศจึงหันมาลงทุนที่ไทยมากขึ้นและจะใช้เมืองไทยเป็นตัวเชื่อมซัพพลายเชนจากเมืองไทยไปสู่ CLMV”

ด้านนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ภาวะการบริโภคของคนไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปลายปีที่แล้ว เป็นผลมาจากช่วงเทศกาลต่าง ๆ และวันหยุดยาวที่เป็นฤดูที่มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญและส่งผลต่อธุรกิจค้าปลีกไทยในปี 58 คือเรื่องของการค้าชายแดนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) โดยในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าต่างๆ เข้าไปจำหน่ายยังประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ เติบโตเฉลี่ยประมาณ 14-18%  ส่วนหนึ่งของการส่งออกเป็นสินค้าจากห้างใหญ่ ๆ ที่ส่งสินค้าออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถึงแม้จะมีสินค้าจากจีนและเวียดนามเข้ามาแข่งขัน แต่สินค้าจากไทยก็ได้รับความนิยมจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก  ส่วนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่ทำให้เศรษฐกิจไทยคึกคักมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมากในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา และคาดการว่าปี 58 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 5.6  ล้านคน และสร้างรายได้ประมาณ 248,000 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีเรื่องของแนวโน้มของราคาน้ำมันที่ไม่เพิ่มสูงขึ้นมากนัก รวมไปถึงการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณค้างท่อของภาครัฐ ที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายและถือว่ายังใช้ไม่มากนัก นอกจากนั้นการเร่งรัดงบประมาณค้างท่อของภาครัฐจะเป็นการใช้เงินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการต่าง ๆ ด้วย ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นอุปสรรค คือเรื่องของภาวะหนี้สินของครัวเรือน รายได้ของเกษตรกร ที่ยังคงทรงตัว ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดของการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกในบ้านเรา

ในด้านของการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก แนวโน้มการขยายตัวจะมุ่งเน้นในเรื่องร้านค้าขนาดเล็ก หรือ “คอนวิเนียนสโตร์”  ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของคอมมูนิตี้มอลล์ ในหลาย ๆ พื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านชานเมือง ในขณะที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มีการขยายตัวไปยังหัวเมืองใหญ่ ๆ ในต่างจังหวัด ตัวนี้ก็เป็นตัวชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งว่าเศรษฐกิจ ในภูมิภาคของไทยยังมีกำลังซื้ออยู่

ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภค เรื่องของสุขภาพและความงามมาเป็นอันดับหนึ่ง และแนวโน้มการซื้อขายผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เกือบทุกห้างมีช่องทางในการซื้อออนไลน์และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต ผู้ประกอบการหันมารุก Digital Marketing  มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือถึง 90 ล้านเลขหมาย และ 36% เป็นสมาร์ทโฟน และแน่นอนว่าสมาร์ทโฟนมีประโยชน์ในเรื่องของ Digital Marketing ในการอ่านริวิวและการสั่งซื้อสินค้า มีการใช้อินเตอร์เน็ต ถึง 27 ล้านคน มีการใช้ Facebook ถึง 18.5 ล้านบัญชี นี่เองที่ทำให้การค้าผ่านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการต้องติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความเจริญก้าวหน้า และมีการเปลี่ยนแปลงไป ต้องปรับปรุงเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีให้ทันยุคทันสมัย ที่สำคัญต้องศึกษาหาความรู้ และแสวงหาช่องทางใหม่ ๆ  เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค

ข่าวยอดนิยม

ประโยชน์ของข้าวแดง หรือ ข้าวซ้อมมือ...

13 ตุลาคม 2558
36474

อาหารจานด่วน-อาหารขยะ ผลเสียต่อสุขภาพ...

22 กรกฎาคม 2558
33643

เอ็มจี เติบโตต่อเนื่อง ทุ่มงบลงทุนกว่าหมื่นล้าน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห...

08 ธันวาคม 2560
25335

ซีพี-เมจิ ตอกย้ำภาพเบอร์ 1 ตลาดนมพาสเจอร์ไรซ์ พร้อมยกระดับตลาดโยเกิร์ต...

03 กรกฎาคม 2558
18111

แชร์ข่าวสาร

ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น ชวนสาวรักสุขภาพเข้าร่วมกิจกรรมในแคมเป... “ซีพี ออลล์” เตรียมขายหุ้นกู้ ครั้งใหม่ 16-19 มีนาคมนี้ อัตร...
  • CP ALL
  • ซีพี ออลล์
  • เศรษฐกิจ 2558
  • สมภพ มานะรังสรรค์
  • สุวิทย์ กิ่งแก้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

เวิลด์แบงก์เตือนหนี้สูงฉุดแผนฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก...

29 ธันวาคม 2564
11664

บริโภค-ลงทุนเอกชนทยอยฟื้นตัว “สศค.” เผยหนุน ศก.ภูมิภาคพ.ย.ปรับดีขึ้น...

29 ธันวาคม 2564
11856

นายกฯ พอใจศักยภาพส่งออกสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่อง เร่งพัฒ...

28 ธันวาคม 2564
10444

ครม.ทราบมติ คกก.นโยบายการเงินรัฐ ขยับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกิ...

28 ธันวาคม 2564
10535

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th