ดร. เอลิซาเบธ ซู เป็นผู้หญิงแถวหน้าบนเวทีเทคโนโลยีระดับโลก เรียนจบปริญญาตรีมาทางด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศ (Atmospheric Sciences) และด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Environmental Science) จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากเรียนจบปริญญาตรีมีความฝันอยากไปเรียนต่อด้านแฟชั่นที่นิวยอร์ค แต่ต้องตัดสินใจเลือกเรียนต่อโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) ในจีนแทน เพราะครอบครัวที่เธอรักอยู่เมืองจีน
จากนั้นเส้นทางชีวิตเปลี่ยนแปลง เมื่อตัดสินใจเริ่มต้นเป้าหมายชีวิตใหม่ด้วยการเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกาด้วยเงินติดตัวเพียง 45 เหรียญสหรัฐฯ วันนี้ ดร. เอลิซาเบธ เป็นนักบริหารหญิงด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยพลังและความสุขกับการทำงานโดยเฉพาะทำงานด้วยความท้าทายใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับการทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ของลูก 2 คน ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง รวมไปถึงงานเพื่อสังคม ใน Be the Change Foundation (Supporting Be the Change Foundation's innovation and Children Sleep Apnea initiatives.) และการพูดคุยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ในโอกาสวันสตรีสากลที่ผ่านมา เว็บไซต์ Women in Technology ได้นำเสนอเรื่องราวของ ดร. เอลิซาเบท ซู Chief Technology Officer ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ไว้อย่างน่าสนใจ จึงขอนำมาแบ่งปันให้ชาวซีพีได้อ่านกันค่ะ
หลายคนถาม ดร. เอลิซาเบท ซู ว่า ไปเอาความมั่นใจ ความกล้าหาญ และความใฝ่รู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาจากไหน รวมถึงทำอย่างไรถึงสามารถแหวกกำแพงแก้ว เพดานไม้ไผ่ จนมาเป็นหญิงเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยเพื่อนร่วมงานผู้ชายล้วนๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีปัญญาฉลาดปราดเปรื่อง ได้ในปัจจุบัน
ดร. เอลิซาเบท จึงย้อนกลับไปในวัยเด็กที่เธอเห็นภาพบุคคล 2 ท่าน คือ คุณย่า และ คุณพ่อ ที่มีความสำคัญเป็นผู้เพาะปลูกเมล็ดพันธุ์เมล็ดน้อยนี้จนมาเป็นคนที่มีความมั่นใจในวันนี้ คุณย่าให้ข้อคิดไว้ตั้งแต่เล็กว่า “จงลดความสนใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่เป็นภาพใหญ่ๆ ดีกว่า” ส่วนคุณพ่อนั้นคือฮีโร่ คุณพ่อเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษและเป็นคณบดีที่วิทยาลัย ในยุคปฏิรูปวัฒนธรรมของจีน คุณพ่อพูดได้ถึง 4 ภาษา เป็นคนที่มีใจเปิดกว้าง มองโลกในแง่ดี และเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวม เป็นนักกีฬาและมีน้ำเสียงที่ไพเราะ ดร. เอลิซาเบธ เล่าให้ฟังถึงความสุขในวัยเด็กยามที่ได้นั่งตักคุณพ่อฟังคุณพ่อเล่าเรื่องราวต่างๆ ทั้งในภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ในความซุกซนของ ดร. เอลิซาเบทที่ไม่ต่างกับเด็กผู้ชาย เธอยังคงจดจำและประทับใจคุณพ่อของเธอมาก โดยเฉพาะคำพูดของพ่อที่บอกว่า “ลูกจะสามารถทำได้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ และดูสวยในชุดกระโปรงสวยๆ ได้”
เธอเล่าว่า ได้เรียนปริญญาเอก และ ปริญญาโท พร้อมกัน จึงต้องเรียนหนักกว่าเพื่อนร่วมชั้นผู้ชาย ต้องตื่นตีสี่ครึ่งทุกวัน ในสายตาของคนทั่วไปจะทึกทักว่าผู้หญิงในชุดกระโปรงสวยๆ “ไม่ค่อยเป็นเทคนิคพอ” ช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำงาน คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่รู้จัก ดร. เอลิซาเบท ก็จะคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เข้าใจเนื้อหาเรื่องราว จึงมักจะมองข้ามความคิดเห็นที่เธอเสนอ แต่ ดร. เอลิซาเบท ก็ไม่โกรธ และพยายามศึกษาและหาประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ ให้มากขึ้นและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ต่อมาก็เป็นที่ยอมรับและนับถือจากเพื่อร่วมงานที่มีความรู้ความสารถด้านเทคโนโลยีสูงๆ ด้วยความสามารถทางสติปัญญาและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในแต่ละเรื่อง (สาขาวิชา) และความเป็นผู้นำของ ดร. เอลิซาเบธ นั่นเอง
ความรักที่ไร้เงื่อนไขของคุณปู่และคุณย่า สร้างดร. เอลิซาเบท ให้เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งไม่เพียงแค่มีความมั่นใจในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่อำนาจควบคุมอยู่ในมือผู้ชาย แต่เป็นความมั่นใจในชีวิตและครอบครัว ดร. เอลิซาเบท จึงส่งต่อความรักความมั่นใจนั้นต่อให้ลูกและเด็กๆ คนอื่นๆ ดร. เอลิซาเบท ทิ้งท้ายว่า “ดิฉันจะทำสิ่งที่ผู้ชายทำและยอมรับในสิ่งที่ผู้ชายต้องยอมรับโดยไม่ปริปากบ่นเลย แต่จะทำสิ่งที่ผู้ชายทำด้วยความอภิรมย์และทำอย่างมีสไตล์”
ท่านที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ : www.women-in-technology.com