แม็คโคร จับมือส่วนราชการจังหวัดน่าน และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดน่าน โดยมีนายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่าน” สอดรับนโยบาย “สานพลังประชารัฐ” ของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรจากชุมชนอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าขยายช่องทางตลาด รองรับผลผลิตกว่า 95 ตัน
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง สยามแม็คโคร และ จังหวัดน่าน ใน "โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่าน" ถือเป็นการขับเคลื่อนจากกรอบการทำงานเพื่อบูรณาการจังหวัด "2ปี 4ขับเคลื่อน" เพื่อพัฒนาจังหวัดน่าน ใน4มิติตามความต้องการของประชาชนชาวน่าน ได้แก่มิติน้ำ มิติป่า มิติเกษตร/พาณิชย์/พอเพียง และมิติการท่องเที่ยว
ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่าในวันนี้ถือเป็นการขับเคลื่อนใน 2 มิติที่จะมาสนับสนุนการแก้ปัญหาก็คือจะมาขับเคลื่อนในเรื่องมิติป่า เพื่อแก้ไขในเรื่องป่าเขาหัวโล้น โดยใช้กลยุทธ์แนวทางการสร้างรายได้ การเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งรวมถึงเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในที่สูงชัน นั่นก็คือใช้หลักของการพาณิชย์นำการเกษตร แก้ปัญหาป่าหัวโล้น โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ให้การสนับสนุน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงแนวทางการสนับสนุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการช่วยเหลือเกษตรกรจังหวัดน่านให้มีความยั่งยืน "ในภาคเอกชนจะเข้ามาสนับสนุนได้โดยการช่วยเหลือในด้านการตลาด รวมถึงการให้คำแนะนำในการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด" ในการนี้จะต้องมีความร่วมมือกันระหว่างแม็คโครและเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ต้องเข้าไปช่วยกันส่งเสริมว่าควรจะปลูกอะไร และตลาดต้องการอะไร ที่สำคัญคือแม็คโครจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความต้องการของตลาดกับการเพาะปลูกเกษตรกรได้อย่างสอดคล้องกัน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
นอกจากนี้นายศุภชัยได้อธิบายเพิ่มเติมว่าตลาดในที่นี้ไม่ได้หมายความเฉพาะความต้องการ (demand) ในจังหวัดน่านเท่านั้น แต่รวมถึงตลาดที่รองรับความต้องการทั้งประเทศ ซึ่งในกรณีแม็คโครมีถึง100สาขาทั่วประเทศ ถ้ามีความต้องการอะไรที่แม็คโครเห็นว่าชาวน่านหรือเกษตรกรน่านสามารถผลิต หรือ ปลูกได้ดี ก็จะเป็นการนำไปสู่ตลาดทั่วประเทศได้ หรือแม้กระทั่งการเชื่อมโยงไปสู่ซีพีออลล์ ซึ่งเป็นบริษัทพี่น้องกับแม็คโคร ก็จะเป็นการนำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรไปสู่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น โดยในประเด็นนี้คงต้องเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา และในอนาคตยังมองไปถึงการเชื่อมโยงสู่ตลาดระดับภูมิภาค เช่น จีน หรือ เอเชีย ซึ่งในกรณีนี้ต้องนำกลไกตลาดมาต่อเชื่อมให้เกษตรกรมีช่องทางการตลาด และมีความรู้ความสามารถที่จะผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายและแนวทางการดำเนินงานบองบบริษัทว่า “แม็คโครมุ่งมั่นสนับสนุนการส่งเสริมสินค้าเกษตรจากชุมชนมาโดยตลอด สำหรับการลงนามความร่วมมือ ‘โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่าน’ ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับเกษตรกรในจังหวัดน่าน รวมถึงเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเพื่อยกระดับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตาลด ส่งผลให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ในราคาที่ดี ผู้บริโภคได้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ ปลอดภัย มีคุณภาพ”
ในปี 2559 นี้ แม็คโครตั้งเป้ารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรไทย รวมกว่า 25,000 ตัน ทั้งนี้แม็คโครยังพร้อมให้คำปรึกษาสำหรับเกษตรกรเพื่อพัฒนาผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ ผ่านโครงการ MQP (Makro Quality Pro) ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การให้คำแนะนำในการปลูก และตรวจสอบคุณภาพของพืชผล ในทุกขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงจุดวางจำหน่ายที่แม็คโคร โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยและยังเป็นการช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ผลิตอีกด้วย
นายสำรวย ผัดผล ประธานมูลนิธิฮักเมืองน่าน กล่าวว่า โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่านจะทำให้เกษตรกรจังหวัดน่านมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของมูลนิธิฮักเมืองน่านนั้นจะเป็นแกนกลางเชื่อมโยงเกษตรกรในการผลิตผลไม้ป้อนแม็คโคร ได้แก่ มะม่วง 5 สายพันธุ์ (โชคอนันต์ ดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้สีทอง เขียวเสวย เขียวใหญ่ ฟ้าลั่น)และยังมีพืชหลังนา เช่น ฟักทอง ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดคั่ว (pop corn) เป็นต้น
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่าน” ครั้งนี้ เป็นการร่วมลงนามจากกลุ่มเกษตรกรจังหวัดน่าน อาทิ กลุ่มเกษตรกรอาหารปลอดภัยตลาดสีเขียว และกลุ่มสวนฮิมม่อน ผลิตโดย เกษตรกรโครงการขยายผลโครงการหลวง จังหวัดน่าน และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนกลุ่มเกษตรกรในอนาคต การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะส่งผลต่อความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร ให้มีความรู้ในการบริหารจัดการด้านการตลาด อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและชุมชนอย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีศักยภาพและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง