ผ่านไปแล้วกับงาน “สัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ” ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม 2559 โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “แรงงานปลอดภัย สุขภาพอนามัยดี นำประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” พร้อมมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการต่างๆ ที่มีการดำเนินการด้านความปลอดภัยดีเด่นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยอย่างมีมาตรฐานสากล 

ในปีนี้บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ จากกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธรกิจพลาสติก สามารถคว้ารางวัลมาได้รวมกันถึง 94 รางวัล แบ่งเป็นประเภทสถานประกอบการดีเด่น 85 รางวัล และประเภทบุคคลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ (จป.ดีเด่น) 8 รางวัล นอกจากนี้ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ บ้านพรุ จังหวัดสงขลา ยังคว้าอีก 1 รางวัลระดับอาเซียนคือ ASEAN-OSHNET Excellence Award 2016 ได้เป็นครั้งแรก การันตีถึงการให้ความสำคัญและการดำเนินการในด้านความปลอดภัยในการทำงานอย่างจริงจังของเครือฯ

ความสำเร็จครั้งนี้มาจากการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มีการดำเนินนโยบายด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องมากว่า 30 ปี โดยก่อร่างขึ้นจากท่านประธานธนินท์ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างมาก คุณพัชรี คงตระกูลเทียน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักพัฒนาความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ อธิบายว่า “ที่ผ่านมา ท่านประธานฯ มีนโยบายว่าพนักงานในเครือฯ คือทรัพยากรที่มีคุณค่าสำหรับองค์กร เมื่อเครือฯ ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพนักงาน จึงเป็นหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบทุกชีวิตที่เข้ามาอยู่ในแวดวงของเครือฯ โดยใช้วัฒนธรรมที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ดูแลซึ่งกันและกัน ทำให้ทุกคนมีความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่เราเน้นการป้องกันและดูแลสภาพการทำงานให้ดีอยู่เสมอ ตั้งแต่เรื่องเครื่องจักรที่ต้องพร้อมใช้งาน และมีความปลอดภัยสำหรับคนที่จะเข้าไปทำงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีในด้านอื่นๆ ด้วย”

คุณพัชรี ยังอธิบายต่อว่า สิ่งที่เครือฯ จะดำเนินการต่อจากนี้ไปคือการรณรงค์สร้างวัฒนธรรมให้พนักงานทุกคนมีจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยในตัวเอง “ที่ผ่านมาเราทำได้น่าพอใจระดับหนึ่งแล้ว และพบว่า 30 ปีที่ผ่านมาอัตราการเกิดอุบัติเหตุของเราลดลงมาโดยตลอด แต่เป้าหมายสำคัญจากนี้ก็คือการรณรงค์ขับเคลื่อนให้ทั้งเครือฯ มีสถิติอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ เสียชีวิต เป็นศูนย์ โดยมีการวางแผนที่จะทำอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ให้ทุกหน่วยงานในเครือฯ นำไปขับเคลื่อนเป็นทิศทางเดียวกัน คาดว่าภายในปีนี้จะเริ่มขยายผลในเชิงปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเท่ากับเป็นการยกระดับพนักงานทุกคนให้มีจิตสำนึกในตัวเอง นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ กฎระเบียบที่บริษัทตั้งไว้ หากพนักงานตระหนักด้วยตัวเอง ดูแลกันและกันจะเกิดเป็นความปลอดภัยที่มีความยั่งยืน”

นับตั้งแต่เครือฯ ประกาศนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดเป็นมาตรฐานด้าน SHE (Safety Health and Environment) ในปี 2547 โดยมุ่งรณรงค์และกำหนดมาตรการการป้องกันและลดอุบัติเหตุในสถานประกอบการให้สอดคล้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสุขอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทต่างๆ ในเครือฯ ก็ตื่นตัวในการดำเนินตามนโยบายดังกล่าวเป็นอย่างดี

คุณภูษิต เกียรติคุณ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยง สำนักพัฒนาความยั่งยืนองค์กร กล่าวว่า “นับตั้งแต่ท่านประธานฯ มีนโยบายให้เครือฯ ดูแลเรื่องความปลอดภัยในการทำงานให้พนักงาน ผู้บริหารแต่ละกลุ่มธุรกิจก็รับไปดำเนินการจนเกิดผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ในปีนี้ที่บริษัทในเครือฯ ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย 94 รางวัล ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เช่น มีการบริหารจัดการที่ดี, จะต้องไม่เกิดอุบัติเหตุขั้นร้ายแรง หรือเสียชีวิต และไม่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ก็เปรียบเหมือนการตรวจเช็คสุขภาพของที่ทำงานว่ายังดีอยู่หรือไม่ และเป็นเครื่องชี้ถึงการได้รับการยอมรับในผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของเครือฯ” คุณภูษิตกล่าว

ทั้งนี้ องค์ประกอบในการประเมินสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น การปฏิบัติตามมาตรฐานกฎหมาย, มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, มีความเป็นผู้นำ, การมีส่วนร่วม การนำไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานอื่น และมีผลสำเร็จในการดำเนินงาน โดยรางวัลแบ่งออกเป็นสองระดับ คือระดับเพชร สำหรับคะแนน 96% ขึ้นไป และระดับทอง สำหรับคะแนนระดับ 90–95% อย่างต่อเนื่อง

นอกจากรางวัลที่ได้รับจากกระทรวงแรงงานแล้ว ในปีนี้ยังเป็นครั้งแรกของการมอบรางวัล ASEAN-OSHNET Excellence Award 2016 โดยเครือข่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ บ้านพรุ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จังหวัดสงขลาได้รับรางวัล โดยมีการจัดพิธีมอบรางวัลไปแล้วเมื่อวันที่ 27เมษายน 2559 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม

คุณจรัส อัศวชาญชัยสกุล รองกรรมการผู้จัดการโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ บ้านพรุ กล่าวถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นว่า “การที่ซีพีเอฟได้รับรางวัลนี้มาจากความร่วมมือของทีมงานที่ช่วยกันบริหารระบบความปลอดภัยในการทำงานให้ก้าวหน้าจนได้รับมาตรฐานระดับอาเซียน ภายใต้หลักการของ ความรัก ความผูกพัน ความปรารถนาดีให้กับทีมงาน โดยมองพนักงานเหมือนเป็นคนในครอบครัว คำนึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นหัวใจสำคัญ มีการจัดสภาพแวดล้อมที่ดี ให้เขามีสุขภาพดี และมีความสุขในการทำงาน การได้รับรางวัลครั้งนี้เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าเราได้รับการยอมรับในสังคมระดับอาเซียน เป็นกำลังใจที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต เชื่อว่าการได้รับรางวัลนี้จะทำให้โรงงานมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสากลและเป็นทางเชื่อมให้เราออกสู่ระดับโลกได้ดีขึ้น”

ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย “น้ำ” สาลินี แก้วบ่อไทย จากเจริญโภคภัณฑ์โปรดิวซ์ ซึ่งได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพดีเด่น กล่าวว่า การที่ผู้บริหารให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และมอบนโยบายให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับต้องมีหน้าที่และจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยในตัวเอง ซึ่งทางบริษัทได้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดผล โดยตนเองก็ตั้งใจทำหน้าที่ด้านความปลอดภัยด้วยการตรวจหน้างานเป็นประจำ หากพบสิ่งผิดปกติหรือข้อบกพร่องในสถานที่ทำงานก็จะรีบแก้ไขทันทีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ รวมถึงต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานด้วยกันเพื่อพูดคุย ซักถามถึงการทำงาน หรือการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ความสำเร็จครั้งนี้มาจากเพื่อนพนักงานทุกคนที่ให้ความร่วมมือ

ทั้งหมดนี้ เปรียบเสมือนดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ในสถานประกอบการ ด้วยการใช้วัฒนธรรมของเครือฯ ที่ดูแลห่วงใยกันเหมือนคนในครอบครัวเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งกำเนิดขึ้นจากวิสัยทัศน์และการริเริ่มของท่านประธานฯ ธนินท์ที่วางแนวทางมายาวอย่างนาน และนำมาสู่ความภูมิใจกับ 94 รางวัล ที่เครือได้รับในครั้งนี้