• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

7 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบวิกฤติหมอกควันไฟป่า จับมือภาคีเครือข่าย ภาคการศึกษา ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน รณรงค์ผ่านคอนเสิร์ต “คาราบาว”ปลุกจิตสำนึก“คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า” รายได้ทั้งหมดเข้ากองทุนฯแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่


23 กุมภาพันธ์ 2559

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากปัญหาการลดลงของพื้นที่ป่าไม้ในประเทศไทยที่เข้าขั้นวิกฤต ส่งผลกระทบถึงความสมดุลของสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ และในฤดูแล้งทุกปีมักพบว่าทางภาคเหนือมักประสบกับปัญหาหมอกควัน เนื่องจากการเผาพื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรม หรือการเกิดไฟป่าด้วยเหตุนี้จังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือรวม 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง และตาก จึงร่วมมือกับ ภาคการศึกษา ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน  จัดกิจกรรมและคอนเสิร์ต“คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า” โดยวงดนตรีคาราบาว วงดนตรีแนวเพื่อชีวิตที่มีแฟนเพลงอยู่มากที่สุด เพื่อรณรงค์และปลุกจิตสำนึกให้คนไทยหันมาสนใจรักษ์และหวงแหนป่าไม้ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดทรัพยากรน้ำ อันเป็นสายเลือดสำคัญต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรไทยและชีวิตผู้คน รวมถึงการรณรงค์เพื่อลดการสร้างหมอกควันและไฟป่า

ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า การที่ทุกภาคส่วนในสังคมมีความตระหนักถึงปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน  ได้ทำให้ชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมต่าง ๆ เกิดการตื่นตัวและรับรู้ว่าสังคมกำลังให้ความกับสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นการทำงานในปีนี้เราจึงเน้นเรื่องคนและชุมชน โดยรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมทั้งป้องกันและแก้ไขกรณีที่เกิดไฟป่าไม่ว่าจะจากกรณีใดก็ตาม

“สำหรับประชาชนที่อยู่บนดอย เราต้องให้กำลังใจเขา สร้างทางเลือก สร้างโอกาส และสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เขา โดยนำกระแสพระราชดำริที่ว่าจะต้องมีป่าและมีรายได้จากป่า เข้าไปปรับใช้ โดยนำภาควิชาการเข้าในสนับสนุน จะทำให้คนอยู่กับป่าได้และไม่ทำลายป่า ตรงนี้เราจะต้องสร้างทั้งจิตสำนึก ในการไม่เผาทำลายป่า สร้างอาชีพและสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพให้เขาอยู่ได้ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะลดลง สำหรับปัญหาไฟป่าหมอกควันในปีนี้จะบอกว่าไม่ให้เกิดขึ้นเลยก็คงเป็นความฝันของทุกคนอยู่แล้ว แต่เมื่อตอนนี้เรายังมีปัญหาต่าง ๆ อยู่สิ่งที่เราจะต้องทำคือ เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งและความพร้อมให้กับคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ที่ก่อให้เกิดปัญหา ทำอย่างไรให้ชาวบ้านท้องอิ่มโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ผู้ที่เข้าไปแก้ปัญหาก็ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ พร้อมที่จะแก้ไขได้ทัน ผู้ที่เข้าไปช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาก็ต้องสนับสนุนความรู้ด้านวิชาการ เพื่อให้เกษตรกรสามารถที่จะนำความรู้ไปปรับใช้กับวิถีชีวิตของเขาได้ ตรงนี้เป็นความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเพื่อที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”

ผศ.พาวิน มะโนชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า จากปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียสมดุลทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ที่ดิน และน้ำ จนเกิดวิกฤตในสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวคือ การขาดความรู้ ความเข้าใจในการอนุรักษ์ รักษา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า จึงทำให้ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ 

ในส่วนของภาคการศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วมและให้ความสำคัญ โดยมีโครงการศึกษาและวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งได้มีการศึกษา วิเคราะห์สภาพปัญหา ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ก่อให้เกิดการพัฒนาและปรับเปลี่ยนวิถีของชุมชน

ในการนี้ภาคการศึกษาได้ร่วมกิจกรรมคนไทยรักษ์ หวงแหนป่า โดยการจัดนิทรรศการเพื่อสนับสนุนให้เกิดการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า  นอกจากนี้ยังเสนอแนวการสร้างอาชีพ โดยแต่ละมหาวิทยาลัยได้นำองค์กรความรู้และเทคโนโลยีมาส่งเสริมเพื่อเป็นการสร้างอาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกร เช่น การเลี้ยงไก่ประดู่หางดำ การปลูกมะม่วง การปลูกพืชบนวัสดุทีไม่ใช้ดิน การผลิตลำไยทรงเตี้ย เป็นต้น โดยหวังว่าเมื่อชุมชนมีอาชีพ มีรายได้จากอาชีพทางเลือก จะสามารถลดการเผาป่า ไม่ตัดไม้เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีเพื่อนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตเป็นวัสดุเชื้อเพลิง ปุ๋ย หรือถ่านชีวมวล 

นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความจริงใจต่อการแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายป่า รวมถึงการถดถอยของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และในฐานะเป็นองค์กรเอกชนที่มุ่งมั่นในแนวทางสู่ความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ความรับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงพร้อมที่จะก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขทุกบริบทของปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ในการดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเพื่อให้แน่ใจได้ว่าการประกอบธุรกิจะต้องตั้งอยู่บนฐานของความยั่งยืน

นอกจากนี้นายอภัยชนม์ ยังกล่าวด้วยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์อยู่ระหว่างการศึกษาหาพืชทางเลือกเข้ามาทดแทนเพื่อลดปริมาณพื้นที่การทำเกษตรในพื้นที่ป่าและภูเขา ซึ่งมีความท้าทายอย่างมากทั้งในด้านความเหมาะสมของพื้นที่ซึ่งจะต้องสามารถปลูกได้ผลผลิตที่ดี และมีตลาดมารองรับ 

สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตคนไทยรักษ์ หวงแหนป่านั้น ก็เพื่อการสร้างสำนึกในการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์โดยโครงการซีพี สานฝันปันโอกาส...สู่คนรักษ์ป่า จะนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้กับกองทุนที่ใช้ในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของแต่ละจังหวัด 

คอนเสิร์ต “คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า” ได้ประเดิมเวทีแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีขึ้นในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนการแสดงคอนเสิร์ตจะมีการเสวนาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กิจกรรมและนิทรรศการ “คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า” นิทรรศการความรู้การทำการเกษตร การปลูกและจัดการซังข้าวโพด การจัดจำหน่ายสินค้าโอท็อป กิจกรรมเกมส์ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป และจะเริ่มแสดงคอนเสิร์ต ตั้งแต่เวลา 19.00-22.45 น. 

อนึ่งกิจกรรมและคอนเสิร์ต “คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า” จัดขึ้นทั้งสิ้น 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่  วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 24 มีนาคม 2559 ณ ฝูงบิน 416 กองทัพอากาศ  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย  วันที่ 25 มีนาคม 2559 จังหวัดพะเยา วันที่ 31 มีนาคม 2559 สนามโรงเรียนศรีเวียงสาวิทยาคาร อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน วันที่ 1 เมษายน 2559 จังหวัดลำพูน วันที่ 2 เมษายน 2559 สนามกีฬานครลำปางเทศบาล 7 อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง  และวันที่ 4 เมษายน 2559 ณ สนามกีฬาตากสิน  อำเภอเมือง จังหวัดตาก

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์ประกาศปิดบริการชั่วคราว ร้านซีพีเฟรชมาร์ท ร้านเซเว่น...

16 ตุลาคม 2560
388132

“ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือซีพี ทุ่ม 100 ล้านบาท เร่งสร้าง...

05 มีนาคม 2563
55516

เครือเจริญโภคภัณฑ์ทั่วโลก จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายและพิธีร่วมน้อมสำน...

12 ตุลาคม 2560
35600

“สระฐินฟาร์ม” ฟาร์มเลี้ยงหมูขุน แบบประกันรายได้ หนึ่งในโครงการส่งเสริม...

10 สิงหาคม 2558
34183

แชร์ข่าวสาร

ทรูวิชั่นส์ ร่วมกับ บีบีซี เวิลด์ นิวส์ ขอเชิญนิสิต-นักศึกษา... กลุ่มทรู จับมือ ไทยเบฟ ทุ่มงบ 180 ล้านบาท เปิดศึก "ทรู ไทยแล...
  • CP Group
  • เครือเจริญโภคภัณฑ์
  • ซีพีสานฝัน ปันโอกาส
  • คนไทยรักษ์ หวงแหนป่า
  • อภัยชนม์ วัชรสินธุ์
  • เชียงใหม่

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

“ซีพี โซเชียลอิมแพคท์” จับมือ“เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม” รับนโยบายมอบฟ้าทะล...

27 ธันวาคม 2564
10589

เครือซีพี มุ่งมั่น ร้อยเรียงความดี มอบหน้ากากอนามัยซีพีหนุนภารกิจ ก.เก...

18 ธันวาคม 2564
2846

เครือซีพี ร้อยเรียงความดีสู่สังคม มอบผ้าห่ม  2,000 ผืน ส่งต่อความอบอุ่...

18 ธันวาคม 2564
3368

ซีพีร้อยเรียงความดีส่งมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจากโครงการ ซีพี ปันปลูกฟ้...

17 ธันวาคม 2564
2283

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th