นายสุเมธ ภิญโญสนิท ผู้แทนเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเครือฯ สนับสนุนงบประมาณจำนวน 3,149,255 บาท ให้กับนายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผนงานการแก้ไขปัญหาหมอกควันจ.เชียงใหม่อย่างยั่งยืน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ลงอย่างน้อยร้อยละ 20 จาก จำนวน Hotspot 2,381 จุด ในปี 2558 และควบคุมค่าฝุ่นละออง (PM10)ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ตลอดจนต้องไม่เกิดเหตุการณ์ยกเลิกเที่ยวบินที่สนามบินเชียงใหม่เช่นปีที่ผ่านมา
กิจกรรมการแก้ไขปัญหาหมอกควัน จ.เชียงใหม่อย่างยั่งยืน มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันที่ 1 ธ.ค 2558 ถึง 30 เม.ย. 2559 รวม 20 สัปดาห์ ซึ่งเบื้องต้นพื้นที่นำร่องทั้ง 3 อำเภอคือ อ.เชียงดาว อ.แม่แจ่ม และอ.สะเมิงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เดินหน้ากิจกรรมเชิงรุกตามแผน 20 สัปดาห์ได้จัดทำไว้แล้ว เช่น การจัดอบรมความรู้เรื่องผลกระทบต่อสุขอนามัยของคนในชุมชน, ปัญหาดินเสื่อมโทรมที่เกิดจากการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวิธีการเผา, การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสารชีวภาพ, การทำปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง, การทำปุ๋ยหมักแบบอัดก้อนเพื่อลดต้นทุนของเกษตรกร, การจัดทำแนวกันไฟ, การวางแผนชิงเผาในพื้นที่ที่จำเป็นให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 ก.พ.59, การประกวดหมู่บ้านที่สามารถลดจุดความร้อนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด, การจ้างอาสาสมัครลาดตระเวนตลอด 24 ชม.ในช่วง 60 วันอันตราย, การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟ, การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยเคลื่อนที่เร็วในพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวล้วนได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากเครือเจริญโภคภัณฑ์
ทั้งนี้ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยตระหนักถึงหน้าที่ที่ภาคธุรกิจต้องมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงความห่วงใยต่อสุขภาพอนามัย ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจใน จ.เชียงใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ในกิจกรรมตามแผน 20 สัปดาห์และจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ดับไฟป่า เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น และหวังว่าการมีส่วนร่วมในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของประเทศอย่างยั่งยืน ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและผืนป่าที่สำคัญ เพื่อส่งต่อความบูรณ์ให้กับลูกหลานต่อไป