นายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดพิธีสำนึกพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในกิจกรรมพิธีไถ่ชีวิตและมอบกระบือ แก่เกษตรกรฟาร์มกระบือทันสมัย (Buffalo Modern Farm) ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 7 ราย จำนวนกระบือ 56 ตัว ณ ฟาร์มกระบือทันสมัยของ นายสำราญ ชารีพร บ้านหนองชัยวาน หมู่ 3 ตำบลป่งไฮ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีมอบ
“ฟาร์มกระบือทันสมัย (Buffalo Modern Farm)” เป็นโครงการที่พัฒนาต่อเนื่องจากโครงการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ร่วมไถ่ชีวิตโค – กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ โดยจะเข้าไปสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยพัฒนาวิธีการเลี้ยงกระบืออย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งในด้านการเลี้ยงดู การป้องกันโรค โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฟาร์มกระบือทันสมัยจะสามารถผลิตลูกกระบือได้ปีละ 8 ตัว มีรายได้จากการจำหน่ายลูกกระบือ 130,000 บาท ต่อปี มีรายได้เพิ่มจากการปลูกหญ้าเนเปียเพื่อขาย 80,000 บาทต่อไร่ต่อปี และจากอาชีพเสริมจากการเลี้ยงปลานิล นอกจากนี้ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้จากการใช้มูลกระบือผลิตเป็นแก๊สชีวภาพ
นายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า กระบือไทยถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสำคัญต่อเกษตรกรรายย่อยในชนบท แต่ปัจจุบันพบว่ากระบือไทยมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกษตรกรเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตทำให้กระบือหายไปจากท้องไร่ท้องนา และส่วนใหญ่ของเกษตรกรที่ยังเลี้ยงกระบืออยู่นั้นก็ไม่ได้เลี้ยงกระบือเป็นอาชีพจึงไม่ได้ให้ความสนใจในการจัดการเลี้ยงดู ปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันกำจัดโรค
ด้วยเหตุนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะที่เป็นบริษัทประกอบธุรกิจหลักด้านการเกษตรจึงตระหนักถึงบทบาทและการมีส่วนร่วมต่อสังคมในการช่วยพัฒนากระบือไทยและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยการร่วมมือกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทและโครงการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ร่วมไถ่ชีวิตโค – กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ดำเนินโครงการฟาร์มกระบือทันสมัย (Buffalo Modern Farm) ขึ้นมา โดยจะนำร่องในพื้นที่ 4 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้มีเกษตรกรชุดแรกที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 8 ราย ซึ่งได้จัดพิธีมอบกระบือ 64 ตัวไปแล้ว ณ บ้านบุขี้เหล็ก ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
“การเลี้ยงควายของเกษตรกรยังเป็นแบบพื้นบ้าน ไม่มีระบบการผลิตในเชิงธุรกิจ ทำให้ได้ผลผลิตต่ำ ถ้าเรายังไม่ทำอะไร ต่อไปในอนาคตควายไทยคงหายไปจากประเทศไทย” นายวัลลภ กล่าว
เครือเจริญโภคภัณฑ์และมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 โดยเปิดรับเงินบริจาคจากประชาชนที่มีมีจิตศรัทธาเพื่อไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์และนำมามอบให้เกษตรกรที่ยากจนในชนบทเพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรรายย่อย โดยดำเนินโครงการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัดและภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม บึงกาฬ เลย หนองคาย และสงขลา จนถึงปัจจุบันได้มีการมอบโค– กระบือให้แก่เกษตรกรรายย่อยไปแล้วทั้งสิ้น 2,240 ตัว 2,240 ครอบครัว ตกลูกแล้วกว่า 4,000 ตัว นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้มูลสัตว์ปรับปรุงดิน ใช้ผลิตแก๊สชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือน และส่งเสริมกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง