ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น พาเจาะลึกธุรกิจแปรรูปผลไม้ ภายใต้แบรนด์ “วรพร” จากโล้สำเภาจีนสู่นักธุรกิจส่งออก พลิกโฉมใหม่ผลไม้แปรรูปสู่บรรจุภัณฑ์พร้อมรับประทานแห่งแรกของประเทศ ช่วยเกษตรกรรับซื้อมะม่วงจากสวนกว่าปีละกว่า 10 ล้านลูก

นายสุวิทย์  กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่สามารถผลิตสินค้าได้คุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาโดยตลอด โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ เพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านสาขาร้านเซเว่นฯ ที่มีอยู่กว่า 8,400 สาขา และบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด ที่มีช่องทางการจำหน่ายผ่านนิตยสารเซเว่นแคตตาล็อก ร้านสาขา ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซซึ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช้อปปิ้งสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 6,300 รายการ และมีการเพิ่มสัดส่วนสินค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายชัยพร  โสธรนบุตร (แชมป์) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด ทายาทธุรกิจมะม่วงแปรรูป ตรา “วรพร” เล่าถึงความเป็นมาในการทำธุรกิจว่า ย้อนไปเมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว อากง ไต่ไห้ แซ่โค้ว อพยพมาจากเมืองจีน โล้เรือสำเภาจากเมืองซัวเถามาขึ้นชายฝั่งประเทศไทยที่ จ.ฉะเชิงเทรา  โดยมีภูมิปัญญาเดิมติดตัวมาด้วยนั่นก็คือวิธีการแปรรูปผักและผลไม้ ใส่ไหตำหรับ (ซัวเถา) ซึ่งอากงเห็นว่าที่แปดริ้ว มีมะม่วงจำนวนมากในฤดูกาล และเหลือล้นตลาด จึงซื้อในราคาถูกมาแปรรูปขาย เริ่มตั้งเป็นร้านเล็ก ๆ ดองมะม่วงใส่โหลแก้วตักใส่ถุงขาย สร้างรายได้หาเลี้ยงลูกและครอบครัว จนถึงรุ่นคุณพ่อ นายชัยรัตน์  โสธรนพบุตร อดีตข้าราชการครูวิชาเคมี ทำงานสอนนักเรียนสัปดาห์ละ 6 วัน จันทร์ถึงเสาร์ และในวันอาทิตย์ก็ใช้เวลาเพื่อทำมะม่วงดองและผลไม้ดองขายส่งตามร้านค้าต่างๆ ย่านแปดริ้ว ทำแบบนี้เป็นประจำตลอดเวลา 3-4 ปี จนเห็นว่าอาชีพนี้สร้างรายได้ดีกว่างานสอนหนังสือที่ทำอยู่ จึงตัดสินใจลาออกแล้วผันตัวมาทำธุรกิจแปรรูปผลไม้เต็มตัว

“เมื่อปี 2529 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของคุณพ่อ เพราะได้ตัดสินใจลาออกจากความเป็นครูมาทำธุรกิจ โดยนำเงินที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิตประมาณหนึ่งล้านบาท  มาลงทุนดองผลไม้ตุนไว้สำหรับขาย 1 ปี จำได้ว่าตอนนั้นมีโอ่งดองผลไม้ไว้เต็มพื้นที่บ้าน  แต่ผลไม้ขายดีมากและขายหมดภายใน 3 เดือนแรก จึงนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่ม ต่อมาได้ตัดสินใจซื้อที่ดิน 1 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานแรกขึ้นมาด้วยเงินลงทุน 3 ล้านบาท แล้วใช้ความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมกับความรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนากิจการจากครัวเรือนเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดย่อม ใช้ส่วนผสมที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย เปลี่ยนจากไหเป็นถังดองผลไม้ขนาดใหญ่น้ำหนักเบา บรรจุผลไม้ได้มากกว่าเดิมแต่รสชาติดีเหมือนเดิม  พร้อมปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับรองมาตรฐาน GMP, HACCP เพื่อยกระดับจากสินค้าโอทอปสู่ห้างและส่งออกตลาดต่างประเทศ”

นายชัยพร กล่าวเสริมว่า การทำมะม่วงดองมีมาตั้งแต่โบราณ แต่ มะม่วง “วรพร” ถือเป็นเจ้าแรกที่สร้างนวัตกรรมใหม่ให้วงการมะม่วงดอง และเปลี่ยนวิธีกินแบบเดิม ๆ ตักใส่ถุง จิ้มพริกเกลือ มาเป็นมะม่วงดองพร้อมรับประทานเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งนวัตกรรมนี้เกิดจากการเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว โดยเซเว่นฯ เห็นผลิตภัณฑ์และชื่นชอบในรสชาติของเราจึงได้ติดต่อให้ไปวางขาย และจากนั้นได้เข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ มีทีมงาน คอยให้คำแนะนำตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ ขนาดซอง วัสดุที่ใช้ การจัดวางสินค้า และการวางแผนการตลาด และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ฉะเชิงเทรา และสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น จึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูป พระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร สัญลักษณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่หลังบรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดไปด้วยพร้อมๆ กัน

“เมืองไทยเป็นประเทศที่มีมะม่วงมากเป็นอันดับ 3 ของโลก และเวลาที่ออกผล เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1-2เดือน ทำให้มะม่วงล้นตลาด พอล้นตลาดชาวสวนขายไปก็ไม่ได้ราคา “วรพร” จึงเป็นเหมือนที่สุดท้ายของเกษตรกร โดยเรารับซื้อผลไม้เพื่อเป็นอีกช่องทางให้เกษตรกรมีที่ระบายผลผลิต โดยในแต่ละปีจะรับซื้อมะม่วงจากสวนของคนแปดริ้วปีละกว่า 10 ล้านลูกมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ ด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐาน” นายชัยพรกล่าว

ทายาทธุรกิจมะม่วงแปรรูป “วรพร” กล่าวทิ้งท้ายว่า “การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งทำให้ปัจจุบันเราเป็นธุรกิจมะม่วงแปรรูปรายใหญ่ในประเทศที่ส่งออกไปกว่า 11 ประเทศทั่วโลก อาทิ อเมริกา อังกฤษ จีน ออสเตรเลีย ฮอลแลนด์ เป็นต้น โดยปัจจุบันมียอดขายในร้านเซเว่นฯ ปีละราวๆ 50 ล้านบาท เมื่อรวมกับการส่งออก ก็จะมีรายได้ปีละเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 8 % พร้อมขยายการส่งออกต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  การนำภูมิปัญญาเดิมของครอบครัว รวมทั้งภูมิปัญญาของท้องถิ่น ผสานกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ 60 กว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจแปรรูปผลไม้ของครอบครัว ค่อยๆ เติบโต พร้อมกับสร้างงานให้คนในพื้นที่และคนไทยอีกหลายจังหวัด สร้างรายได้ให้เกษตรกรท้องถิ่น และยังเป็นศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ให้ทั้งในชุมชนและต่างจังหวัดมาเรียนรู้แล้วนำไปประกอบอาชีพ ไม่น่าเชื่อว่า มะม่วงดอง มะม่วงกวนสินค้าบ้านๆ สามารถสร้างงานให้คนเป็นร้อยคน แถมยังส่งออกสร้างรายได้ให้ประเทศด้วย ผมภูมิใจในกิจการของเรามาก”

สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่สนใจนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายที่เซเว่น อีเลฟเว่น สามารถติดต่อบริษัทได้หลายช่องทาง อาทิ เว็บไซต์ www.cpall.co.th หรือ www.7eleven.co.th และติดต่อผ่านทางสำนักจัดซื้อของเซเว่นฯ เบอร์โทรศัพท์

0-2677-9000 นอกจากนี้ บริษัท 24 Shopping จำกัด ในกลุ่ม ซีพี ออลล์ ยังได้ทำการตลาดผ่านเซเว่นแคตตาล็อก ซึ่งเป็นระบบเมลล์ออร์เดอร์ที่ทันสมัย และผ่านช่องทางร้านสาขา รวมไปถึงเว็บไซต์ www.7catalog.com, www.Shopat7.com และให้บริการลูกค้าผ่าน Call Center 0-2711-7666 ตลอด 24 ชั่วโมง