เครือเจริญโภคภัณฑ์ สร้างสรรค์โครงการ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส” (Just believe in your dreams) นำเด็กจากพื้นที่ห่างไกล ที่มีหัวใจรักกีฬาฟุตบอลกว่า 1,000 คน ชมการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “ทรู ซูเปอร์ โทรฟี่ - ลิเวอร์พูล ทัวร์ 2015” ลิเวอร์พูลปะทะนักเตะไทยจากทีม ทรู ออล สตาร์ 14 กรกฎาคม พร้อมสานฝันเด็กโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 180 คนร่วมกิจกรรม Football Clinic ฝึกเทคนิคการเล่นฟุตบอลระดับโลกจากโค้ชและอดีตนักเตะหงส์แดงลิเวอร์พูล

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ /กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะบริหาร  บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้สร้างสรรค์โครงการ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส” (Just believe in your dreams) ขึ้นมาเพื่อหนึ่งในกิจกรรม CSR “ซีพีเพื่อสังคมยั่งยืน” ให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ซึ่งเครือฯได้เข้าไปสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่อาหารกลางวันนักเรียนมาอย่างต่อเนื่อง และนักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหมดกว่า 1,000 คน ได้มีโอกาสชมการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์ “ทรูซูเปอร์โทรพี่ – ลิเวอร์พูล ทัวร์ 2015” ถึงขอบสนาม รวมทั้งได้คัดเลือกเด็กจากโรงเรียนตชด. 180 คน ร่วมกิจกรรม Football Clinic ฝึกเทคนิคการเล่นฟุตบอลระดับโลกกับโค้ช และอดีตนักเตะลิเวอร์พูล ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยที่มีความฝัน และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างฝันให้เป็นจริง

นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า โครงการซีพีสานฝันปันโอกาส “ทรู ซูเปอร์ โทรฟี่ - ลิเวอร์พูล ทัวร์ 2015” จะสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เป็นระดับโลกแก่เด็กไทยที่มีใจรักกีฬาฟุตบอล จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ได้เข้าไปส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารให้กับเยาวชนได้มีภาวะโภชนาการที่ดี มีร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเล่นกีฬาที่รักได้ Football Clinic จะทำให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้เทคนิคการเล่นฟุตบอลระดับโลกจากโค้ชและอดีตนักเตะลิเวอร์พูล 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจซึ่งจัดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้เด็ก ๆ ประทับใจและเก็บไว้ในความทรงจำ ได้แก่ การได้ต้อนรับคณะนักเตะลิเวอร์พูล ณ สนามบินสุวรรณภูมิอย่างใกล้ชิดในวันแรกที่คณะนักเตะเดินทางมาถึงประเทศไทย  การร่วมวิ่งการกุศล The Kop Run กับนักฟุตบอลระดับตำนานจากทีมลิเวอร์พูล
โดยรายได้จากการขายบัตรในการวิ่งการกุศล หลังหักค่าใช้จ่าย ทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และยังจะได้มีโอกาสร่วมงาน Meet&Greet ทำกิจกรรมร่วมกับนักเตะลิเวอร์พูลอย่างใกล้ชิด 

ที่สำคัญเด็กๆ จะได้ชมการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์ ระหว่างทีมสโมสร Liverpool กับทีม ทรู ออลสตาร์ ซึ่งจะเป็นความประทับใจไม่รู้ลืมของเด็กในโครงการ “ซีพี สานฝัน ปันโอกาส Just believe in your dreams” จำนวน 1,000 คน ที่ได้ชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดแบบเกาะติดขอบสนาม ที่เชื่อมั่นว่าไม่ง่ายเลยกับโอกาสเข้าชมความสามารถของนักกีฬาสโมสรชั้นนำของโลกสดๆ แบบใกล้ชิดขนาดนี้ เพราะเด็กเหล่านี้ ล้วนเป็นนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่มาจากพื้นที่ห่างไกล บางส่วนมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยะลา หรือเหนือสุดขอบจากเชียงราย เชียงใหม่ หรือแม้แต่สุดเขตแดนอีสาน อย่างบึงกาฬ  และยังมีเด็กอีกส่วนหนึ่งจากโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร รวม 50 โรงเรียนที่จะมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

อนึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทและเหล่าพนักงาน ได้ร่วมสนับสนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ผ่านโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน(โรงเรียน ตชด.) จำนวน 113 โรงเรียนใน 37 จังหวัดตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยในปัจจุบันมีเด็กในโครงการ 13,702 คน ครูตชด.657คน  ไก่ไข่ยืนกรง 14,451 ตัว เงินกองทุนสะสมเพื่อการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันอย่างยั่งยืนอีกกว่า 7 ล้านบาท

สำหรับเด็กนักเรียนทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการซีพีสานฝัน ปันโอกาส ประกอบด้วย 1. เด็กนักเรียน ตชด. จำนวน 609 คน จาก 50 โรงเรียน ใน 25 จังหวัดตามแนวชายแดนทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย  2.เด็กศิษย์เก่าโรงเรียน ตชด.ที่ได้รับทุนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์และเหล่าพนักงาน ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่1-4  ณ โรงเรียนไกลกังวล ถึงระดับอุดมศึกษา จำนวน 58 คน 3. เด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 440 คน 

นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง-ซิโก้ ในฐานะผู้คุมทีม ทรู ออล สตาร์ ในการแข่งครั้งนี้ เปิดเผยว่า โครงการซีพีสานฝันปันโอกาส ที่ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์จัดขึ้นให้กับน้องๆ จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนได้มาชมการแข่งขัน ได้เจอนักเตะระดับโลก เป็นเรื่องที่เกินฝันของเด็กๆ ผมเองสมัยเด็กฝันอยากมาเหยียบสนามศุภชลาศัย สนามราชมังคลา แต่วันนี้น้องๆ นอกจากจะได้เหยียบสนามเหล่านี้แแล้ว ยังได้สัมผัสนักเตะระดับโลก ซีพีทำให้ความฝันของเด็กๆเป็นจริง วันนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำลังวางแผนสร้างทีมเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลเยาวชนโลก ซึ่งกำลังเตรียมเด็กอายุ 12-13 ปี ที่จะซ้อมกันต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ฉะนั้นคิดว่าน้องๆที่ซีพีได้สร้างวันนี้อาจจะเป็นทีมชาติในอนาคต เพราะเด็กเก่งส่วนใหญ่จะอยู่ต่างจังหวัด วันนี้เห็นแววตาเด็กทุกคนแล้วรู้เลยว่า วันหนึ่งต้องได้มาเจอกันแน่นอน การให้โอกาสเด็กได้เดินตามฝันของซีพีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งเพราะว่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ไกลปืนเที่ยง อยู่ในตะเข็บชายแดน แต่เชื่อได้เลยว่าถ้าเด็กเก่งจริง อยู่ที่ไหนเพชรก็คือเพชร

นายมิก้า ชูนวลศรี นักฟุตบอลสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด จุดประกายฝันให้กับน้องๆว่า การจะก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ น้องต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง สมัยเป็นเด็กๆ ตั้งผมตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้เลยว่าโตขึ้นจะเป็นนักบอลทีมชาติ จึงพยายามฝึกฝนตนเอง จนวันนี้มายืน ณ จุดนี้ได้ ช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็มีทั้งผิดหวังบ้าง ท้อบ้าง แต่ถ้ามีวินัย เต็มที่กับสิ่งที่ทำ รักในอาชีพที่ทำ ฝันก็เป็นจริงได้

นายพุฒินันท์ วรรณศรี นักฟุตบอลกองหลังสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ดและทีมชาติไทย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพว่า สมัยผมเด็กต้องการจะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว จึงหมั่นฝึกฝนทักษะการเตะฟุตบอล เพื่อเข้าเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ซึ่งจะได้โควต้าเรียนฟรี ไม่ได้ฝันว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่เมื่อได้มาเล่นฟุตบอล ไปแข่งขันแล้วได้แชมป์ก็เกิดความสนุก เกิดความหลงใหล่ในการเตะฟุตบอล ทำให้มุ่งฝึกซ้อม เพราะปัจจุบันนักฟุตบอลอาชีพสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ และขอฝากถึงน้องๆ ที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ การกำหนดเป้าหมาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตนเองมุ่งหน้าทำตามความฝันให้สำเร็จ ต้องมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม ซ้อมหนักทุกวัน และต้องมีความอดทน จึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จ

ในส่วนของนักเรียน จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว อ.สนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแชมป์ฟุตบอลระดับภาค ที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการซีพีสานฝัน ปันโอกาส อย่างเช่น ด.ช.บูรพา ชาระ-น้องกอล์ฟ ได้บอกเล่าอย่างตื่นเต้นว่า “ผมฝันอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ พี่ซิโก้เป็นฮีโร่ของผม ผมจะมุ่งมั่นฝึกซ้อม เล่นให้เก่ง เพื่อที่วันหนึ่งผมจะไปอยู่กับพี่ซิโก้ให้ได้ การได้เข้าร่วมโครงการซีพีสานฝัน ปันโอกาส ทำให้เชี่อมั่นว่าฝันของเขาจะเป็นจริงได้” 

ขณะที่ ด.ช.บุญญณัฐ นิลหงษ์-น้องปลื้ม เล่าด้วยแววตาเป็นประกายว่า “ผมอยากเป็นนักบอลอาชีพ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย โครงการซีพีสานฝันปันโอกาส ทำให้ฝันผมเป็นจริง ได้มีโอกาสใกล้ชิดนักเตะในดวงใจ ซึ่งผมชื่นชอบมาริโอ บาโลเตลลี่ ศูนย์หน้าทีมลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก  ผมจึงตั้งตาคอยให้ถึงวันนั้นเร็วๆ และวันที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรม Football Clinic เพื่อที่จะเก็บเทคนิคต่างๆไปฝึกฝน พัฒนาตนเองก้าวไปเป็นนักบอลอาชีพตามที่ฝันไว้ให้ได้”

เครือเจริญโภคภัณฑ์รู้สึกยินดีและมีความสุขที่ได้ดำเนินโครงการซีพีสานฝัน ปันโอกาส และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะเป็นกิจกรรม CSR ที่สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่เด็ก ๆ ที่เป็นเยาวชนของชาติ จุดประกายให้เด็กๆ เดินตามความฝันที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต และยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการกีฬาแก่เยาวชนไทยด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ภายใต้นโยบาย “3 ประโยชน์” ได้แก่ การดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องก่อให้เกิดประโยชน์ 3 ประการ คือ ประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน โดยประโยชน์แก่เครือเจริญโภคภัณฑ์มาเป็นลำดับสุดท้าย…