• หน้าแรก
  • คุยกับ CP
  • ข่าวเศรษฐกิจ - ธุรกิจ
  • CP เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
  • ข้อเท็จจริง CP
  • แวดวง CP
  • เปิดหน้าต่างมองโลก
  • วิดีโอ
  • วารสารบัวบาน
  • ติดต่อเรา

ซีพีเอฟ มอบอาหารปลอดภัยสู้ COVID-19 ป้อนบุคลากร รพ.รัฐ-กลุ่มเสี่ยง เสริมมาตรการ สธ.เต็มที่


05 มีนาคม 2563

ในมุมมองของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ยอมรับว่า การระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงมากที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี นับจากเกิดการระบาดของโรคซาร์ส โดยเฉพาะผลกระทบทางจิตวิทยา เพราะเป็นโรคระบาดใหม่ที่คนยังไม่รู้จัก ทำให้เกิดเป็นความกังวล แต่เชื่อว่าหากทุกคนไม่ปกปิดข้อมูลและรักษาสุขอนามัยพื้นฐานก็จะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ในที่สุด 

ประเมินสถานการณ์​ 2 กรณี

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟเองนั้น คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสิรฐ​ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ยอมรับว่า ยอดขายในประเทศโดยรวมลดลงราว 5%  โดยเฉพาะช่องทางในกลุ่มร้านอาหาร และโรงแรม ที่ยอดขายตกลงอย่างหนัก แต่เนื่องจากโมเดลธุรกิจในประเทศไทยมีช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย รวมทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนไปซื้อสินค้าในหมวดอาหารจากช่องทาง Retailer ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในช่องทางดังกล่าว เติบโตได้ค่อนข้างดี และมาช่วยบาลานซ์ในส่วนที่ตกลงได้

แต่หากดูภาพรวมผลประกอบการของบริษัทยังเป็นบวกอยู่ เนื่องจากสัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่เกือบ 70% เป็นยอดขายจากต่างประเทศ ทั้งในส่วนของการส่งออกไปกว่า 30 ประเทศ​ และจากการไปตั้งธุรกิจในอีก 17 ประเทศ​ ซึ่งช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศส่วนใหญ่ อยู่ในรูปแบบ Retailer ซึ่งมีประชาชนไปซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารเช่นเดียวกัน ทำให้ภาพรวมของธุรกิจยังคงเป็นบวกได้อยู่

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารซีพีเอฟ มองผลกระทบตลอดทั้งปี ไว้ 2 กรณี คือ Best Case ที่คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายในไตรมาส 2 และ Worst Case หรือ กรณีที่สถานการณ์ลากยาวออกไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี

1. Best Case : หากสถานการณ์คลี่คลายและจบลงได้เร็วภายในไตรมาส 2 นี้ บริษัทน่าจะยังคงสามารถรักษาการเติบโตที่เป็นบวกของผลประกอบการไว้ได้ เนื่องจาก กำลังซื้อของประชาชนที่อั้นไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ก็จะกลับมาจับจ่ายกันอย่างคึกคัก​มากยิ่งกว่าช่วงปกติ โดยซีพีเอฟปิดยอดขายใในปี 2562 ที่ผ่านมาราว 5.3 แสนล้านบาท และตามแผน 5 ปี ตั้งเป้าการเติบโตต่อปีไว้ที่ราว 8-10% โดยยอดขายจะแตะ 8 แสนล้านบาท ภายในปี 2566

2. Worst Case : หากสถานการณ์ลากยาวไปจนถึงไตรมาสสุดท้าย ผลประกอบการของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับทรงงตัวจากปีก่อนหน้า เพราะยังมีธุรกิจจากต่างประเทศมาช่วยซัพพอร์ต ซึ่งมีเพียงธุรกิจในจีนที่อยู่ในพื้นที่ที่เกิดการระบาด แต่สถานการณ์ล่าสุดโดยรวมเริ่มคลี่คลายลง ขณะที่ในทวีปอื่นๆ เช่น ยุโรป ​ศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่อิตาลี แต่ธุรกิจของซีพีเอฟ อยู่ในอังกฤษ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย ความกังวลคือ การรักษาประสิทธิภาพของซัพพลายเชนทั้งระบบไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงการขนส่งธุรกิจไปยังทั่วประเทศ เนื่องจาก บริษัทดำเนินธุรกิจบนมาตรฐาน Food Safty มาโดยตลอด ทำให้การรักษาความปลอดภัย และด้าน Hygenic อยู่ในระดับสูงสุดอยู่แล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังโอกาสในการรับเชื้อจากภายนอกของพนักงาน​ เพราะหากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิต เพราะต้องปิดไลน์ผลิตที่พนักงานรายนั้นดำเนินการอยู่เพื่อความปลอดภัย ​และลดโอกาสในการแพร่ระบาด ทำให้กำลังผลิตในภาพรวมลดลง และเกิดผลกระทบต่อกันมาเป็นลูกโซ่

“หากถามถึง ความน่ากลัวของโรค COVID-19 ด้วยความที่เป็นสิ่งใหม่ คนยังไม่คุ้นเคย ประกอบกับข่าวการแพร่ระบาดที่กระจายไปทั่วโลก ทำให้เกิดความวิตกกังวล และหวาดกลัวอย่างมาก แต่ใน​ความเป็นจริง ​โรคนี้อาจจะไม่น่ากลัวและรุนแรงเท่ากับการปกปิดข้อมูลของผู้ที่มีความเสี่ยง ทำให้การป้องกันหละหลวม และมีโอกาสติดเชื้อได้ แต่หากทุกคนไม่ปิดบังข้อมูล และรักษาสุขอนามัยตามพื้นฐานที่ควรปฏิบัติ​ โรคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่สามารถป้องกันและเชื่อว่าจะสามารถจะควบคุมสถานการณ์ได้โดยเร็วในที่สุด”​

มอบอาหารถึงบ้านฟรี ช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยง 

ในส่วนของซีพีเอฟเองนั้น ทางผู้บริหารยืนยันว่า ยังไม่มีพนักงานติดเชื้อ COVID-19 แต่มีผู้ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังจากการที่มีคนใกล้ชิดเดินทางไปต่างประเทศ และต้องกักบริเวณตัวเอง 14 วัน จำนวน 27 คน ซึ่งทางบริษัทมีการช่วยเหลือพนักงานด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารจากทางบริษัท เพื่อสำรองไว้รับประทานในช่วงที่ต้องกักบริเวณตัวเอง

จากโครงกาความช่วยเหลือภายใน นำมาสู่การต่อยอดความช่วยเหลือไปยังผู้เฝ้าระวังและบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ซีพีเอฟ ริเริ่มโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัย COVID-19” ด้วยการสนับสนุนอาหารสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ​ โดยไม่จำกัดจำนวน และระยะเวลาในการสนับสนุน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ทั้งนี้ ความช่วยเหลือจะแบ่งเป็นในส่วนบุคคลทั่วไปที่ต้องกักบริเวณ 14 วัน แจ้งความประสงค์รับการสนับสนุนอาหารจากซีพีเอฟ ผ่านแอปพลิเคชั่น Line : CPFRESHMART โดยบริษัทจะนำรายชื่อที่ลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบกลับไปยังกรมควบคุมโรค เมื่อผู้ป่วยได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ “ทีมซีพีเฟรชมาร์ทเดลิเวอรี่” จะนำผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทจัดส่งจากจุดกระจายสินค้าร้านซีพีเฟรชมาร์ทที่มีสาขา 109 จุดทั่วประเทศ (อยู่ใน กทม. 59 สาขา) เพื่อส่งตรงถึงผู้ป่วยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ผู้บริหาร CPF ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ความช่วยเหลือบุคลากร รพ.รัฐ และกลุ่มเสี่ยง

ขณะที่ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ จะมีการนำตู้แช่บรรจุอาหารไปให้บริการในโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ททีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ โดยนำร่องไปแล้วที่โรงพยาบาลจุฬา และจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลรามาฯ  โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎ​ และโรงพยาบาลอื่นๆ ในลำดับต่อไป โดยโรงพยาบาลสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับการสนับสนุนอาหารผ่านฮอตไลน์ซีพีเฟรชมาร์ท โทร.1788

สำหรับอาหารที่ทาง CP จะส่งมอบ มีให้เลือก 3 ชุด 34 รายการ ได้แก่ 1. ชุดอาหารพร้อมรับประทาน ที่สามารถอุ่นในไมโครเวฟ เพื่อรับประทานได้ทันที อาทิ ข้าวกะเพราไก่ สปาเก็ตตี้คาโบนารา เกี๊ยวกุ้ง  2. ชุดข้าวแกงถุง ที่สามารถแกะถุงรับประทานได้ทันที และ 3. ชุดอาหารสด เนื้อไก่ เนื้อหมู ที่สามารถนำไปปรุงเมนูที่ต้องการรับประทานได้เองตามต้องการ โดยต้องเลือกเพียงชุดใดชุดหนึ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และจะเริ่มดำเนินการจัดส่งหลังได้รับการยืนยันสิทธิ์ผ่าน SMS แล้ว

“ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 เสาหลักของการพัฒนา ผ่านการพัฒนาคนด้วยการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ การพัฒนาสังคมด้วยการส่งมอบสิ่งดีผ่านการดำเนินธุรกิจ และการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้ อยู่ภายใต้การดูแลสังคมในฐานะ Good Citizen รวมทั้งในมิติของ People หรือการดูแลผู้บริโภคและคนไทยทุกคน โดยหลัง Kick off โครงการไปตั้งแต่วันที่ 4  มีนาคม ปัจจุบันมีผู้สมัครรับสิทธิ์แล้วกว่า 200 ราย โดยคาดว่าจะมีเข้ามาอีกไม่ตำกว่า 1 พันราย ซึ่งซีพีเอฟในฐานะผู้นำที่จุดประกายโครงการ​เพื่อการดูแลคนในสังคมร่วมกัน อยากขอเชิญชวนภาคเอกชนเข้ามาร่วมโครงการ หรือหาโซลูชั่นส์ที่เหมาะกับธุรกิจของแต่ละแห่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือ และฝ่าฟันอุปสรรคในครั้งนี้ไปด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าในมที่สุดสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายและจบลงโดยเร็ว”​

ที่มา - Brandbuffet

ข่าวยอดนิยม

เครือเจริญโภคภัณฑ์ประกาศปิดบริการชั่วคราว ร้านซีพีเฟรชมาร์ท ร้านเซเว่น...

16 ตุลาคม 2560
388015

“ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือซีพี ทุ่ม 100 ล้านบาท เร่งสร้าง...

05 มีนาคม 2563
55365

เครือเจริญโภคภัณฑ์ทั่วโลก จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายและพิธีร่วมน้อมสำน...

12 ตุลาคม 2560
35492

“สระฐินฟาร์ม” ฟาร์มเลี้ยงหมูขุน แบบประกันรายได้ หนึ่งในโครงการส่งเสริม...

10 สิงหาคม 2558
34028

แชร์ข่าวสาร

“ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือซีพี ทุ่ม 100 ล้านบาท ... CPF ลงนาม MOU กับ VGreen ร่วมแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน...

ข่าวที่น่าสนใจ

อ่านข่าวทั้งหมด อ่านข่าวทั้งหมด

“ซีพี โซเชียลอิมแพคท์” จับมือ“เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม” รับนโยบายมอบฟ้าทะล...

27 ธันวาคม 2564
10448

เครือซีพี มุ่งมั่น ร้อยเรียงความดี มอบหน้ากากอนามัยซีพีหนุนภารกิจ ก.เก...

18 ธันวาคม 2564
2686

เครือซีพี ร้อยเรียงความดีสู่สังคม มอบผ้าห่ม  2,000 ผืน ส่งต่อความอบอุ่...

18 ธันวาคม 2564
3168

ซีพีร้อยเรียงความดีส่งมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจากโครงการ ซีพี ปันปลูกฟ้...

17 ธันวาคม 2564
2161

เครือเจริญโภคภัณฑ์
Copyright 2016.
Privacy Policy | Rules & Regulations

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความรู้คู่คุณธรรม: www.truepookpanya.com
  • CP-Enews ปี 2013: news.cpfworldwide.com
  • CP-Enews ปี 2012: www.cpthailand.com/enews

ติดต่อเรา

สำนักกิจกรรมสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • โทรศัพท์ : 02-858-6286 / 02-858-2564 / 02-858-3721-2
  • โทรสาร : 02-858-3726
  • อีเมล์ : prcpgroup@cp.co.th