วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม ๒๕๖๑ - เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนต์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานการเปิดประชุมระดับชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ประจำปี พ.ศ. 2561 (National Dialogue on Business and Human Rights 2018 : Human Rights System Management) ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Representative of Thailand to ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights - AICHR) สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก (Global Compact Network Thailand – GCNT) บริษัท อีอาร์เอ็ม – สยาม จำกัด และมูลนิธิมานุษยะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพผู้แทนจากรัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน หลักการสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principle on Business and Human Rights UNGPs) การเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Due Diligence) รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับนโยบาย การบริหารความเสี่ยง และกลไกการจัดการข้อร้องเรียนของหน่วยงานต่างๆ
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่านานาประเทศมีการแข่งขันกันพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ภายในประเทศ ซึ่งผลจากการขยายตัวจากเศรษฐกิจก่อให้เกิดผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ ในเชิงบวก การพัฒนาทางเศรษฐกิจย่อมทำให้เกิดรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่การเจริญเติบทางเศรษฐกิจดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน การเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น สิทธิด้านแรงงาน สิทธิในที่ดินทำกิน สิทธิในทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น จากสถานการณ์ข้างต้นนำมาสู่การตื่นตัวของประชาคมระหว่างประเทศในการสร้างมาตรฐานระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภาคธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ตามกรอบงานขององค์การสหประชาชาติในการคุ้มครอง เคารพ และเยียวยา ในปี พ.ศ. 2555 เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ หน้าที่ของรัฐ และความรับผิดชอบของภาคธุรกิจในการปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการประกอบธุรกิจ
สำหรับประเทศไทย มีสถิติข้อร้องเรียนของสำนักงานงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ผ่านมาพบว่า ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่างๆ โดยภาคธุรกิจได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของตนเอง โดยภาคธุรกิจก็มีความพยายามที่จะใช้มาตรการเพื่อตอบโต้ จัดการ และยับยั้งการร้องเรียนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีความตระหนักถึงปัญหานี้ และพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้ตอบรับข้อเสนอแนะของประเทศสวีเดนจากเวทีการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนตามกลไก UPR (Universal Periodic Review) และให้คำมั่นโดยสมัครใจว่าจะกำหนดให้ประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล พร้อมมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน รวมทั้งกำหนดให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญภายใต้วาระแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับการเผยแพร่หลักการสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยจัดโครงการและกิจกรรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับหลักการและสาระสำคัญ ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น นางสุนันทา เตียสุวรรณ์ อุปนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก ผู้แทนนายกสมาคมฯ กล่าวว่า “สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณอย่างยิ่งที่กระทรวงยุติธรรมและภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัด ได้เชิญสมาคมฯ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดการประชุมในวันนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อภาคเอกชนของไทย เพราะภาคเอกชนล้วนตระหนักดีถึงความสำคัญของการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน ตามหลักการสหประชาชาติฯ สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกันคือ เรื่องสิทธิมนุษยชนที่ภาคเอกชนควรให้ความสำคัญ ครอบคลุมประเด็นใดบ้าง เพื่อจะได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องเหมาะสม สมาคมฯ เชื่อมั่นว่า ผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้จะได้รับประโยชน์และสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริง นับเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จด้านการส่งเสริมธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยอย่างแท้จริง”
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะหนึ่งในองค์กรเอกชนที่เป็นสมาชิกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมงานคือ ดร.เนติธร ประดิษฐ์สาร รองเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก และผู้ช่วยประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าร่วมการประชุมภาคีเครือข่ายในครั้งนี้