WWF จัดประชุมนัดพิเศษ ในหัวข้อ "Healthy River, Healthy Forest, Healthy People" เชิญชวนองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนโครงการ "คืนเสือโคร่งสู่เขาใหญ่ ดงพญาเย็น (Reintroduction of Tiger to Dong Praya Yen- Khao Yai)" พร้อมแบ่งปันผลสำเร็จโครงการด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงการรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนของชุมชน
ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา เป็นตัวแทนเครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มทรู เข้าร่วมประชุมนัดพิเศษ ที่จัดโดย WWF-ประเทศไทย (กองทุนสัตว์ป่าโลก)โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Uffe wolfhechel เอกอัคราชฑูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย เข้าร่วมแบ่งปันแนวทางการใช้พลังงานจากธรรมชาติของเดนมาร์ก และการสนับสนุนของสถานฑูตเดนมาร์กในงานอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและธรรมชาติในประเทศไทย
พร้อมกันนี้นางสาวเยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการ WWF-ประเทศไทย ได้เชิญตัวแทนภาคีเครือข่าย ร่วมสนับสนุนแผนการดำเนินโครงการ "คืนเสือโคร่ง สู่เขาใหญ่ ดงพญาเย็น (Reintroduction of Tiger to Dong Praya yen - Khao Yai) ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในโลก ที่ wwf จะทำการย้ายถิ่นอาศัยของเสือโคร่ง จากอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติปางสีดา กลับสู่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ของป่ามากกว่าเพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของเสือโคร่งในประเทศไทย
ทั้งนี้ Mr. Stuart Chapman, Representative -WWF Greater Mekong กล่าวว่าเสือเป็นสัตว์ที่เป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าและเป็นสัตว์ที่อยู่ในห่วงโซ่อาหารชั้นบนสุดหากเสือลดจำนวนลง จำนวนสัตว์กินพืชจะมีจำนวนสูงขึ้นจนขาดการควบคุม ดังนั้นการอนุรักษ์เสือโคร่ง คือการรักษาสมดุลของธรรมชาติ ขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนประชากรเสือโคร่ง ประมาณ 200 ตัว ซึ่งมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ WWF ได้เชิญคุณหญิงทิพภาวดี เมฆสวรรค์ ที่ปรึกษาของ B-Grimm ซึ่งเป็นภาคีในการดำเนินโครงการอนุรักษ์เสือโคร่งในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ มาแบ่งปันผลสำเร็จของการดำเนินโครงการจนทำให้มีจำนวนเสือโคร่งในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด Jim Thompson ประเดิมเข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้ด้วยการออกแบบ collection ผ้าพันคอลายเสือโคร่ง และหัก 5% ของราคาผ้าพันคอที่จำหน่ายสนับสนุนโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ WWF ยังนำ HSBC ซึ่งเป็นพันธมิตรโครงการอนุรักษ์พื้นที่ชุมน้ำ แม่น้ำสงคราม จ.นครพนม ร่วมนำเสนอผลสำเร็จของการดำเนินโครงการที่ช่วยให้รักษาระบบนิเวศน์และความหลากหลายทางชีวภาพของลุ่มน้ำสงครามให้คงความสมบูรณ์ และเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับชาวอีสานอีกด้วย