การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา ครั้งแรก รับรองจากสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ (RPIA) เป็นการแข่งขันแบบ One Loft Race เพื่อชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับชิงเงินบำรุงพันธุ์กว่า 15 ล้านบาท
งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มกราคม 2560 ได้รับการสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมกับ 3 บริษัทในเครือคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จุดประสงค์คือ ต้องการยกระดับการแข่งขันนกพิราบแข่งของไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมสากลและเป็นที่ยอมรับในนานาชาติ เน้นการตัดสินที่โปร่งใสตามหลักกติกาสากล พร้อมยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาอีกด้วย ตลอด 3 วันของการจัดงานได้รับความสนใจจากผู้เลี้ยงนกพิราบแข่งทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงประชาชนโดยทั่วไปเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม มีแขกเข้าร่วมมากกว่า 200 คน และมากกว่า 100 คนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจเมืองพัทยา
นกที่ชนะเลิศในระยะทาง 530 กิโลเมตรได้แก่ “ไมค์ เตชะอุบล” (Mike Taechaubol) (Team A) จากประเทศไทย ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเงินบำรุงพันธุ์ 5 ล้านบาท นกชนะเลิศระยะทาง 430 กิโลเมตรคือ นายซาง เหลียน เหวิน (Shang Lian Wen) จากประเทศจีน ได้ถ้วยรางวัล พร้อมเงินเงินบำรุงพันธุ์ 1 ล้านบาท และนกที่ชนะเลิศระยะทาง 330 ได้แก่ ทีม “หมูกัดเสือ” จากประเทศไทย ได้ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินบำรุงพันธุ์ 5 แสนบาท สำหรับนกยอดเยี่ยม (ACE PIGEON) ที่ทำคะแนนสูงสุดรวมทั้ง 3 ระยะทางได้แก่ของ นายซาง เหลียน เหวิน ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมกับเงินบำรุงพันธุ์ 5 แสนบาท และรางวัลประเภททีม ซึ่งมีนกเข้าร่วมทีมละ 10 ตัวและทำคะแนนได้สูงสุดคือทีม Boon Chuay - Sant – Pichai ได้ถ้วยรางวัล ประกาศนียบัตรและรางวัลพิเศษเป็นรถยนต์ MG3 1,500cc 1 คัน
การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา ครั้งที่ 2 แบบ One Loft Race จะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 มกราคม 2561 โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2560 เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน พร้อมเงินรางวัลบำรุงพันธุ์รวมกว่า 20 ล้านบาท